MGR Online - ศาลสั่งจำคุก “เสี่ยศุภชัย” อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น 16 ปี หลังกลับคำรับสารภาพ โกงเงิน 22 ล้าน ส่วนคดียักยอกเงินเข้าวัดธรรมกาย 12,000 ล้านบาท ยังอยู่ในขั้นอัยการก่อนส่งฟ้องศาลต่อไป
ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (8 มี.ค.) ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก คดีหมายเลขดำ อ.1739/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อายุ 59 ปี อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นจำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ผู้อื่น และจัดการทรัพย์สินผู้อื่นโดยทุจริตในฐานะเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 และ 354
คดีนี้ อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 58 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 56 สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 และที่ประชุมมีมติเลือกนายศุภชัย จำเลย เป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดที่ 29 อยู่ในตำแหน่ง 2 ปี ต่อมานายทะเบียนสหกรณ์ได้ตรวจสอบพบว่าการเรียกประชุมใหญ่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับ และกฎหมาย นายทะเบียน จึงมีหนังสือลงวันที่ 23 เม.ย. 56 ไม่รับรองตำแหน่งประธานกรรมการจากการประชุมดังกล่าว ต่อมาสหกรณ์ยูเนี่ยนฯ ได้ประชุมใหญ่วิสามัญและมีมติให้การรับรองนายศุภชัย จำเลย เป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์อีกครั้ง และยังเปิดประชุมคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 2 สมัยสามัญ ครั้งที่ 1/2556 และมีมติแต่งตั้งนายศุภชัย จำเลย ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการสหกรณ์ฯ อีกตำแหน่งด้วย กระทั่งวันที่ 10 เม.ย. - 8 ต.ค. 56 จำเลย ซึ่งเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ได้กระทำการทุจริต โดยให้เจ้าหน้าที่บัญชีเบิกเงินสดของสหกรณ์ ผู้เสียหาย หลายครั้งหลายหนรวม 8 ครั้งๆละระหว่าง 184,000-6 ล้านบาท รวม 22,132,000 บาทเข้าบัญชีของจำเลย หรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริต เหตุเกิดที่ทำการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ทั้งนี้จำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มกระบวนพิจารณา นายศุภชัย จำเลยได้แถลงต่อศาลขอกลับคำให้การเดิมที่ปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี เป็นยินยอมให้การรับสารภาพ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก, 353, 354 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันรวม 8 กระทง จำคุกกระทงละระหว่าง 3-5 ปี รวมจำคุก 32 ปี คำให้การจำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 16 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วนับเป็นเรื่องร้ายแรง โทษจำคุกจึงไม่มีเหตุให้รอลงอาญา
ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนาศุภชัย จำเลยซึ่งวันนี้ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำในชุดนักโทษ โดยมีหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นรถไปควบคุมตามคำพิพากษาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายศุภชัยซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินรายใหญ่ของวัดพระธรรมกาย ยังมีสำนวนคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ยูเนี่ยนฯ ที่ยังรออัยการพิจารณาสั่งคดีอีก 1 สำนวน โดยคดีดังกล่าว พนักงานสอบกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ สรุปสำนวนกล่าวหานายศุภชัยกับพวกอีก 3 คนซึ่งเป็นอดีตกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ฝ่ายการเงิน-สินเชื่อ มูลค่าความเสียหายกว่า 12,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม
ส่วนสำนวนคดีฉ้อโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ กว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอสรุปสำนวนสมควรสั่งฟ้องนายศุภชัยกับพวกรวม 12 ราย ให้กับอัยการสำนักงานคดีพิเศษเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 58 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของอัยการ