MGR Online - เลขาธิการ ป.ป.ส. ตรวจเยี่ยมชุมชนทางหลวง จ.นครปฐม หลังดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดระบาดอย่างหนักลดน้อยลงมาก พร้อมแนะให้ภาคประชาชนมีส่วนรวมสร้างความเข้มแข็งในชุมชน
วันนี้ (27 ก.พ.) เวลา 10.00 น. ที่ชุมชนทางหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.อ.สันติ แสนรักษ์ รอง ผอ.รมน.จ.นครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดของชุมชน ตามปฏิบัติการ “ประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด” พร้อมให้กำลังใจครอบครัวและติดตามผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด
นายณรงค์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดของชุมชนทางหลวง หรือ “ทางหลวงโมเดล” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของชุมชนที่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดผ่านกลไกประชารัฐ ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน หรือชุมชน ซึ่งมีภาครัฐให้การสนับสนุนจะเป็นความยั่งยืนที่แท้จริงในการที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติด ชุมชนทางหลวง จึงนับเป็นชุมชนนำร่อง เป็นต้นแบบในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 7 ตามแผน “ประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด”
นายณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด จ.นครปฐม ในภาพรวมยังมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดกลุ่มหลัก ทั้ง ยาบ้า กัญชา ไอซ์ และพืชกระท่อม กระจายตัวอยู่ทุกอำเภอ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม และอำเภอสามพราน เป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มในการแพร่ระบาดของยาเสพติดรุนแรง สาเหตุประการหนึ่งมาจากการมีสถานบันเทิง สถานบริการ และสถานประกอบการหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังพบว่าจังหวัดนครปฐมยังเป็นพื้นที่สำหรับการพักยาเสพติดก่อนจะลำเลียงลงสู่พื้นที่ภาคใต้ หรือก่อนจะกระจายไปสู่พื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
สำหรับ ชุมชนทางหลวง เป็นชุมชนในเขตเทศบาลนครปฐม เดิมเคยเป็นหนึ่งในชุมชนที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดรุนแรงมาเป็นเวลานาน ทางสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนทางหลวง เข้าดำเนินการตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ด้วยการเชิญชวนผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้ค้ารายย่อยและผู้เสพยาเสพติดมาปรับทัศนคติและให้หยุดพฤติกรรม ส่วนผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำนวน 31 คน ได้นำเข้าค่ายบำบัดรักษา ตาม “โครงการปรับเจตคติคืนคนดีสู่สังคม” จำนวน 5 วัน และติดตามให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อาทิ อาชีพ การศึกษา
ผลจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและชุมชนทางหลวง ทำให้ปัญหาผู้ค้าผู้เสพยาเสพติดลดลง จากพื้นที่ที่มีปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดรุนแรง สามารถพัฒนาและยกระดับให้เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง มีการยอมรับปัญหา และพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา จึงทำให้ชุมชนทางหลวงได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดหมู่บ้าน หรือชุมชน เข้มแข็งเอาชนะยาเสพติด ประเภทหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีปัญหาระดับมาก ปี 2558 ระดับภาคของกระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
