MGR Online - รอง ผบก.จร.เชิญคนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างจ่ายค่าปรับด้วยเหรียญ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจคู่กรณีตามที่มีการแชร์ในโลกโซเชียลมาสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมปรับความเข้าใจต่างฝ่ายยอมขอโทษซึ่งกันและกัน ชำระค่าปรับด้วยเหรียญเรียบร้อย
จากกรณีนายวัฒนา แย้มชุติ อาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง วินหน้าโรงพยาบาลสมิติเวช ได้เข้ามาติดต่อ ร.ต.ต.สมัย พรสันเทียะ งานสายตรวจ 2 กก. 1 บก.จร. ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับใต้ทางด่วนพระราม 4 เพื่อชำระค่าปรับจำนวน 400 บาท หลังกระทำผิดกฎหมายจราจรในข้อหาขับขี่รถจักรยานยนต์กีดขวางการจราจร ซึ่งนายวัฒนาได้นำถุงบรรจุเหรียญกษาปณ์ชนิดต่างๆ มาชำระเป็นค่าปรับ แต่ทาง ร.ต.ต.สมัยไม่ยอมรับถุงเงิน ขณะเดียวกันนายวัฒนาได้ทำการบันทึกคลิปวิดีโอในเหตุการณ์ดังกล่าว และมีการแชร์ลงในโลกโซเชียลจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.จร. ได้เชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมปรับความเข้าใจและขอโทษซึ่งกันและกัน เนื่องจากเป็นความเข้าใจผิดทางการสื่อสาร
โดย พ.ต.อ.เอกรักษ์กล่าวว่า จากการสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวกับ ร.ต.ต.สมัย ถึงข้อเท็จจริงที่ไม่ยอมรับถุงบรรจุเหรียญของนายวัฒนาที่นำมาเสียค่าปรับ เนื่องจากในช่วงเวลานั้นมีผู้มารอติดต่อเสียค่าปรับเป็นจำนวนมาก และเกรงว่าจะทำให้เสียเวลา เพราะต้องนั่งนับเหรียญทั้งหมด ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า ร.ต.ต.สมัยมีความบกพร่องในหน้าที่ด้วยเช่นกัน เพราะปฏิเสธไม่รับถุงบรรจุเหรียญที่นายวัฒนานำมาชำระค่าปรับ
ด้านนายวัฒนาระบุว่า สาเหตุที่นำเหรียญชนิดต่างๆ มาชำระค่าปรับเนื่องจากใกล้ครบกำหนดวันที่จะต้องชำระค่าปรับ อีกทั้งตนเองมีอาชีพขับขี่รถจักรยายนต์รับจ้าง จึงมีเหรียญอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
นายวัฒนายังบอกอีกว่า การบันทึกคลิปวีิดีโอไว้ขณะติดต่อชำระค่าปรับเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนการนำคลิปวิดีโอไปเผยแพร่นั้นยอมรับว่าทำไปเพราะความโมโห
นอกจากนี้ พ.ต.อ.เอกรักษ์กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีนี้จบลงด้วยดี ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกัน พร้อมมีการชำระค่าปรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการนำเหรียญมาชำระค่าปรับสามารถกระทำได้ แต่ต้องชำระหนี้ตามที่กฎกระทรวงกำหนดไว้ คือ เหรียญ 25 และ 50 สตางค์ ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 10 บาท, เหรียญ 1 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 500 บาท, เหรียญ 5 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 500 บาท และเหรียญ 10 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท
