xs
xsm
sm
md
lg

“ก๊วนจ่านิว” จ๋อย ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “บิ๊กตู่ - คสช.” ฐานกบฏ - ล้มล้าง รธน.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ไม่รับฟ้องคดีกลุ่มพลเมืองโต้กลับและพวกพร้อม “จ่านิว” ยื่นฟ้องหัวหน้า คสช. กับพวก ฐานเป็นกบฏ ล้มล้างรัฐธรรมนูญ กรณียึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 57 ชี้ รธน. ชั่วคราว ยกเว้นความผิดไว้แล้ว คดีจึงไม่มีมูล ด้าน “พันธ์ศักดิ์” เตรียมยื่นฎีกาต่อ อ้างการรัฐประหารไม่ชอบด้วยกฎหมาย

วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1805/2558 ที่นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มพลเมืองโต้กลับและกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ประกอบด้วย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ, นายสิรวิชญ์ หรือ จ่านิว เสรีธิวัฒน์, นายรังสิมันต์ โรม, นายอานนท์ นําภา กับพวกรวม 15 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับพวกรวม 5 คน เป็น จำเลยที่ 1 - 5 ในความผิดฐานเป็นกบฏ ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หรือล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ หรือแบ่งแยกราชอาณาจักรโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำการสะสมกำลังพล หรืออาวุธ หรือสบคบกันเพื่อเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 และ 114

โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2558 ระบุว่า เมื่อระหว่างวันที่ 20 - 24 พ.ค. 2557 จำเลยทั้งห้าร่วมกันใช้กำลังขู่เข็ญประทุษร้ายและล้มล้างเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 สิ้นสุดลง ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ อันเป็นความผิดฐานกบฏ และพวกจำเลยยังได้ออกคำสั่งในนาม คสช. หลายฉบับ อันเป็นการละเมิดสิทธิ์และเสรีภาพของประชาชน ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

ศาลอาญาได้พิจารณาคำฟ้องประกอบข้อกฎหมาย ในชั้นตรวจรับคำฟ้องแล้ว เห็นว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 บัญญัติยกเว้นความผิดและความรับผิดการกระทำทั้งหลายในการยึดอำนาจและการควบคุมอำนาจปกครองแผ่นดิน ของหัวหน้าคณะ และ คสช. ไว้ จึงพ้นจากความรับผิดโดยสิ้นเชิง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 ไม่รับฟ้องคดีดังกล่าว ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ว่า ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์โดยไม่ไต่สวนมูลฟ้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ในวันนี้ นายพันธ์ศักดิ์, นายสิรวิชญ์, นายรังสิมันต์, นายอานนท์ พร้อมพวก 7 คน เดินทางมาศาล เพื่อร่วมฟังคำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว เห็นว่า คดีอาญาที่ประชาชนเป็นโจทก์ ศาลต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน เพื่อวินิจฉัยในเบื้องต้นว่า โจทก์มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลยในชั้นพิจารณาหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในชั้นตรวจรับคำฟ้อง ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด และคดีขาดอายุความจึงเห็นควรตามกฎหมายที่จำเลยไม่ต้องรับโทษ จึงชอบที่จะมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้ โดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง และตามรัฐธรรมนูญฯ ชั่วคราว มาตรา 48 บัญญัติว่า การกระทำทั้งหลายในการยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ของหัวหน้า คสช. รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง จะไม่มีผลบังคับทางรัฐธรรมนูญ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ดังนั้น ย่อมทำให้จำเลยกับพวกพ้นจากความผิดโดยสิ้นเชิง ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ ดังนั้นที่ศาลชั้นต้น วินิจฉัยว่าคดีไม่มีมูลและไม่รับคำฟ้องของโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้องนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายกฟ้อง

ภายหลังจากฟังคำพิพากษา นายพันธ์ศักดิ์ สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น โดยศาลชั้นต้นยกฟ้องโดยให้เหตุผลว่าคณะ คสช. ได้นิรโทษกรรมตัวเอง ตามมาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญฯ ชั่วคราว ซึ่งตนได้แย้งไปว่าการฉีกรัฐธรรมนูญแล้วเขียนกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเองนั้นไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามจะยื่นฎีกาอย่างแน่นอน

นายอานนท์ ทนายความ กล่าวว่า จะฎีกาต่อสู้จะประเด็นเดิม คือ การรัฐประหารนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการยอมรับอำนาจรัฐประหารจะทำให้เกิดวงจรอุบาทว์ เช่น ยึดอำนาจอยู่เรื่อยไป

กำลังโหลดความคิดเห็น