MGR Online - พ่อน้องเฌอ พร้อมกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เดินทางร้องทุกข์กองปราบฯ เอาผิดกลุ่มบุคคลทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมขอให้ชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนดำเนินการต่างๆ เผยมาในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีและต้องการความกระจ่าง
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.15 น. นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดานายสมาพันธ์ ศรีเทพ (น้องเฌอ) พร้อมนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด (น้องเกด) กลุ่มพลเมืองโต้กลับ และนายอานนท์ นำภา ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สยาม บุญสม รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความให้เอาผิดต่อกลุ่มคนที่มีส่วนในการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่มีการก่อสร้างและดำเนินโครงการอุทยานราชภักดิ์ ในพื้นที่กว่า 222 ไร่ โดยมีการหล่อพระบรมรูปกษัตริย์กว่า 7 พระองค์ รวมไปถึงการดำเนินการกิจกรรมต่างๆ นั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นการดำเนินการภายใต้มูลนิธิอุทยานฯ แต่มีผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการอยู่ในกองทัพบกจำนวนหลายรายทั้งชั้นผู้ใหญ่ไปจนถึงระดับเล็ก ดังนั้นการที่ทาง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ออกแถลงข่าวถึงโครงการดังกล่าว จึงไม่ชัดเจนว่าที่ระบุในส่วนของการสร้างพระบรมรูปกษัตริย์กว่า 7 พระองค์มีส่วนต่าง แต่บอกว่านำส่วนต่างดังกล่าวไปบริจาคแล้วนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร ทั้งนี้ต้องการให้ชี้แจงด้วยการจำแนกรายละเอียดในการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ แบ่งออกเป็น 1. เรื่องต้นปาล์ม ที่ทางกองทัพบอกว่ามีผู้บริจาคต้นละ 300,000 บาท แล้วได้นำชื่อไปติดที่ต้นนั้นๆ เกิดข้อสงสัยว่าแล้วค่าจัดซื้อต้นปาล์มราคาต้นละ 100,000 บาท นั้นถูกนำไปอยู่ในกระเป๋าของผู้ใด เรื่องที่ 2 ค่าจัดเลี้ยง แม้ว่าการซื้อบัตรจะเป็นไปด้วยความสเน่หา แต่ราคาบัตร 500,000 บาท ขณะที่บัตรวีไอพีอยู่ที่ราคา 1 ล้านบาทนั้น ควรจะเปิดเผยรายละเอียดรายรับ รายจ่ายที่ชัดเจน
3. ในส่วนของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กระทรวงกลาโหม อดีต ผบ.ทบ.ที่รับเงินบริจาค และมีการชี้แจงและแชร์ภาพข่าวลงเว็บไซต์และข่าวสารของ ททบ.5 แต่กลับไม่เห็นบัญชียอดเงินที่ได้รับอย่างแท้จริง ส่วนกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าสาเหตุที่ไม่ดำเนินการตรวจสอบเนื่องจากไม่มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น พวกตนจึงมาในฐานะประชาชนที่เป็นผู้เสียภาษีมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการการก่อสร้างโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นการดำเนินงานของกองทัพบกทั้งหมด และมีการใช้เงินของแผ่นดินซึ่งเป็นเงินจากการเสียภาษีของประชาชนไปก่อตั้ง
“พวกผมในฐานะประชาชนจึงมีสิทธิขอความกระจ่างและชัดเจนในการจัดตั้งโครงการด้วย นอกจากนี้ ตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกมารัฐประหารก็ได้มีคำสั่งที่ 69/2557 เพื่อปราบปรามข้าราชการที่ทุจริตและคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด พวกผมจึงหวังว่าการเข้าร้องทุกข์ในครั้งนี้จะสามารถเอาผิดต่อผู้ที่กระทำความผิดได้” นายพันธ์ศักดิ์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนั้น นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร มีความสนิทกับข้าราชการในกองทัพบก หลายๆ ครั้งจึงเชื่อว่าหากทางกองทัพบกตรวจสอบก็คงไม่ได้เรื่องอะไร
ด้าน พ.ต.อ.สยามกล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐาน และนำเรื่องส่งมอบให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป