กลุ่มพลเมืองโต้กลับและแนวร่วมเสื้อแดง เดินทางมายื่นฟ้อง “พล.อ.ประยุทธ์ และคสช.” รวม 5 คนในวันรอบ 1 ปี รัฐประหาร ฐานเป็นกบฏล้มล้างรัฐธรรมนูญ ก่อนโดนตำรวจพาตัวไปเจรจาที่ สน.พหลโยธิน
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (22 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ, นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับพวกรวม 5 คนซึ่งเป็นคณะ คสช. เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานเป็นกบฏล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หรือล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร หรือตุลาการ หรือแบ่งแยกราชอาณาจักรโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำการสะสมกำลังพลหรืออาวุธ หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 และ 114 กรณีที่พวกจำเลยรวมกันยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
จากนั้นนายพันธ์ศักดิ์และเพื่อนได้พากันเดินออกมาให้สัมภาษณ์ที่บริเวณด้านนอกรั้วศาลอาญา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด โดยนายพันศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้กลุ่มพลเมืองโต้กลับและเพื่อนๆ ในฐานะผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการทำรัฐประหารได้ร่วมกันยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ กับพวกคสช. รวม 5 คน ในความผิดฐานกบฏ ซึ่งศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าจะรับคดีไว้พิจารณาหรือไม่ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจมายื่นฟ้องในวันนี้เนื่องจากครบรอบ 1 ปี รัฐประหารและระยะเวลาผ่านมาพอควรจนเริ่มหายจากความกลัวแล้ว ก่อนหน้านี้มีผู้ลงชื่อร่วมกันเป็นโจทก์ร่วมประมาณ 44 ราย แต่สุดท้ายก็ถอนชื่อออกไปบ้างเนื่องจากถูกกดดันและเหตุผลทางด้านครอบครัวต่างๆ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ 3 อำนาจของประชาธิปไตยเหลือแค่ฝ่ายตุลาการเพียงอำนาจเดียว เพราะเราไม่มีสภาและคณะบริหารที่มาจากการเลือกตั้ง ศาลจึงเป็นที่พึ่งสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายพันธ์ศักดิ์ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธินได้เชิญตัวนายพันธ์ศักดิ์ พร้อมพวกรวม 3 คนขึ้นรถตู้ของตำรวจไปยัง สน.พหลโยธินต่อไป ขณะที่วันนี้มีแนวร่วมกลุ่มพลเมืองโต้กลับราว 30 คนเดินทางมาให้กำลังใจ