MGR Online - พล.อ.ไพบูลย์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาเด็กแว้น - สถานบันเทิงอยู่ใกล้สถานศึกษา
วันนี้ (14 ม.ค.)ที่กระทรวงยุติธรรม อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แจ้งวัฒนะ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ฯ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/58 ครั้งที่ 1/2559 เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาเด็กแว้น - สถานบริการที่กระทำผิดกฎหมาย โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ กรมควบคุมโรค กรมสรรพสามิต กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษ กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ฯลฯ
พล.อ.ไพบูลย์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุม คณะกรรมการตามคำสั่งหัวหน้า คสช. เกี่ยวกับเรื่องการแข่งรถและสถานบริการใกล้สถานศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยมีการประชุมไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้หน่วยงานต่าง ๆ ไปดำเนินการตาม 22/58 นั้น แต่เนื่องจากว่าในวันที่ 22 ม.ค. 59 จะครบกำหนดตาม มติ ครม. ที่จะต้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้ 1. นิยามคำว่าใกล้สถานศึกษา ซึ่งได้ให้ กรมสรรพสามิต เป็นเจ้าภาพในการกำหนดแผนบริการ สถานที่ใกล้สถานศึกษาอย่างไร สรุปว่าได้กำหนดมาเป็นแผนที่ใกล้สถานศึกษาเรียบร้อยแล้ว จำนวน 3 เขตพื้นที่สถานศึกษา คือ อุดมศึกษา อาชีวศึกษา มัธยมศึกษา ซึ่งส่วนนี้จะเสนอ ครม. ให้รับทราบเพื่อที่จะได้นำคำสั่งของ ครม. ไปออกราชกิจจานุเบกษา ทำให้ประชาชนสามารถเข้าไปดูได้ตาม สำนักงานจังหวัด กรมการปกครองจังหวัดหรืออำเภอ เป็นต้น
“ส่วนอีก 2 เขตพื้นที่สถานศึกษา ได้แก่ ประถมศึกษา และ อนุบาล มีความเห็นว่า จะเริ่มนับ ประถมศึกษา ก่อน โดยจะขอขยายระยะเวลา ครม. เพราะทำไม่ทัน สำหรับ อนุบาล จะอยู่ในเกณฑ์ขออนุมัติ ครม. เรื่องการผ่อนผันเพราะรับทราบมาว่าไม่ค่อยมีปัญหามากนักจากการรับฟังข้อคิดเห็นของหน่วยงานที่รับผิดชอบ” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า 2. การโซนนิงของกระทรวงมหาดไทยจะกำหนด 6 เดือน วันที่ 22 ม.ค. 59 เช่นกัน เรื่องการโซนนิงที่ใช้เป็นสถานที่ตั้งบริการร้านอาหารเป็นอย่างไรกันแน่ เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ธุรกิจ โดยสรุปดำเนินการเรียบร้อยแล้ว 69 จังหวัด ส่วน กทม. ขอเวลาดูรายละเอียดอีก
เนื่องจากยังไม่ค่อยเรียบร้อย ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องขอผ่อนผันจาก ครม. ขยายเวลาออกไปอีกเพราะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อรัฐมนตรีรับรองแล้ว กระทรวงมหาดไทยจะไปออกพระราชกฤษฎีกาเป็นเรื่องของการประกอบธุรกิจ สถานบริการ ต้องให้เวลาทำอย่างรอบคอบ แต่ต้องขอบคุณกระทรวงมหาดไทย ที่ฟังเสียงประชาชน การรับทราบถึงชุมชน
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า 3. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ไปดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องรวมเด็กนอกสถานศึกษา ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย โดยที่ประชุมเห็นว่าเนื่องจากไปซ้ำซ้อนกับงานปกติของ กระทรวง พม. ก็ให้เป็นเรื่องปกติไป แต่ขอเรียกดูข้อมูลมาประกอบการพิจารณา ซึ่งทั้งหมดเป็น 3 เรื่องใหญ่ที่ต้องติดตามความคืบหน้า นอกจากนี้ ได้มีประเด็นเนื่องจากคำสั่งเกี่ยวกับสถานบริการที่ใกล้สถานศึกษา อีก 2 ข้อ คือ 1. ในกรณีมีโรงแรมเปิดใหม่ และอยู่ในเขตใกล้สถานศึกษาที่ได้กำหนดเขตเรียบร้อยแล้วจะอนุญาตหรือไม่ เพราะกฎหมายโรงแรมให้มีสถานบริการอยู่ในตัวของกฎหมายโรงแรม และ 2. เรื่องร้านจำหน่ายสุราประเภทขายส่ง เปิดในชุมชนจะอนุญาตหรือไม่ ซึ่งในที่ประชุมนั้นพิจารณาว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายส่วนนี้แก้ไขให้เด็กและเยาวชนไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประชุมอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูแลเรื่องนี้
“ส่วนเรื่องเด็กแว้นที่ดำเนินการมานั้นไม่สามารถยับยั้งทุกจุดได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่พอต้องยอมรับ แต่เราได้กำหนดพื้นที่อันตรายเอาไว้ 9 จังหวัดที่เกิดขึ้นบ่อยและเกิดซ้ำแต่ไม่กระทบเป็นภาพใหญ่ในวงกว้างจนเกินไป ได้ให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เฝ้าระวัง โดยส่วนใหญ่เป็นจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ เรื่องหล่านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปทำข้อกำหนดมาและขอให้คิดถึงภารกิจรักษาความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก อีกเรื่องการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ต้องขอบคุณศาลยุติธรรม ได้ใช้ความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย 22/58 โดยการกำหนดตักเตือน แต่มีบางหน่วยใช้กฎหมายลักษณะนี้ไม่เข้มแข็ง สุดท้ายในที่ประชุมรับทราบว่า ทางคณะกรรมการใหญ่ ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นเพื่อลงพื้นที่ไปดูเรื่องเด็กแว้น สุรา และสถานบริการ ขณะนี้กำลังดำเนินการขออนุมัติให้ ครม. รับทราบถึงความคืบหน้า” รมว.ยุติธรรม กล่าวปิดท้าย