MGR Online - “จเรตำรวจแห่งชาติ” เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ข้าราชการตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ยึดของกลางยาไอซ์ 21 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 63 ล้านบาท
วันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางตรวจเยี่ยมมอบนโยบายการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด 1 คดี โดยมี พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.กฤษณะ คุณาการ รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมรับมอบนโยบาย
โดยเจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.1 สามารถจับกุม นายอะเล แซ่หวู่ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.1 ต.ห้วยชมพู อ.เมือง จ.เขียงราย ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย สามารถจับกุมได้ที่ปากซอย นาคนิวาส 49 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ต่อเนื่องไปยังห้องพักเลขที่ 1531 ชั้น4 ตำหนักทองอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 7/48 ซ.นาคนิวาส 47 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 21 ถุง ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่น บรรจุในถุงสีทอง (ถุงสำหรับบรรจุชา) ห่อหุ้มด้วยเทปกาวสีดำรวมน้ำหนักประมาณ 21 กิโลกรัม มูลค่า 63 ล้านบาท, จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กก 3470 เชียงราย, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ 1 เครื่อง และสมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 4 เล่ม
พล.ต.ต.รณศิลป์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดจากทางภาคเหนือจะลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อทำการติดต่อล่อซื้อ โดยนายอะเลได้นัดหมายส่งยาไอซ์ในวันที่ 24 ธ.ค. เวลา 15.00 น. ที่ปากซอยนาคนิวาส 49 ต่อมาเมื่อถึงเวลาที่นัดหมาย เจ้าหน้าที่พบนายอะเลกำลังขับขี่จักรยานยนต์พร้อมกระเป๋าที่บรรจุไอซ์น้ำหนัก 2 กิโลกรัมมาส่งให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้สะกดรอยติดตามไปจับกุมได้ที่บริเวณหน้าตำหนักทองอพาร์ตเมนต์ พร้อมกับเข้าตรวจห้องพักเลขที่ 1531 ชั้น 4 ห้องพักของผู้ต้องหา พบยาไอซ์อีกจำนวน 19 กิโลกรัม จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยหลังจากนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ต่อไป
นายอะเลให้การว่า ตนมีอาชีพขับรถรับจ้างทั่วไปใน กทม. เพื่อนได้แนะนำให้รู้จักกับนายเม้ง ชาวเขาเผ่าลีซอ พ่อค้ายาเสพติดทางภาคเหนือ ตนจึงร่วมกับกลุ่มของนายเม้งลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะไปรับยาเสพติดจากลูกน้องของนายเม้งมาเก็บไว้เพื่อที่จะส่งให้ลูกค้าอีกทีหนึ่งตามคำสั่งจากนายเม้ง โดยจะได้ค่าจ้าง 10,000 บาทต่อเดือน ที่ตนทำไปเพราะต้องการเงินไปรักษาพ่อที่ป่วยเป็นโรคปอด และดูแลลูกที่ยังเล็กอยู่ “อยากเตือนให้ผู้ที่คิดจะทำแบบตนอย่าทำเลยเพราะมันเป็นสิ่งไม่ดี ทำลายอนาคต สูญเสียทุกอย่าง”
พล.ต.อ.ชัยยะกล่าวว่า การกำจัดยาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นนโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่อยู่แถบชายแดนชาวไทยภูเขา ต้องขอชื่นชมทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ลงมาปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าขนวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่แบบนี้จะต้องมีผู้ที่มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และจะต้องมีการจัดการข้อมูลที่ดีจึงจะนำไปสู่การจับกุมได้