สน.ตลิ่งชัน บุกจับอดีตพนักงานช่องฟ้าให้ทีวี คาห้องเช่าย่านแสมดำ ก่อเหตุชิงทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง เผยนำของกลางโทรศัพท์ขายเครื่องละ 500-600 บาท ส่วน จยย.เอาไว้ใช้เอง อีกคดีรวบวัยรุ่นสกลนครใช้ชีวิตเสเพลสิงสถิตร้านเกม-เสพกัญชา ร้อนเงินพาพวกอีก 2 คนตระเวนใช้มีดขู่ปล้นทรัพย์ก่อเหตุบ่อยครั้ง
วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. ที่ สน.ตลิ่งชัน พ.ต.อ.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.สีหเดช สระกอบแก้ว รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.พงศ์สุรวัฒน์ วงศ์สารัมย์ สว.สส.สน.ตลิ่งชัน สามารถจับกุมตัว นายสุรสิทธิ์ อาจผักปัง หรือเบนซ์ (เสื้อสีดำ) อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน ษรม 951 กทม. และอาวุธมีดยาวประมาณ 1 ฟุต โดยสามารถจับกุมได้บริเวณห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชั้น 2 ซอยพรหมวัฒน์ 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน มีและใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม
พ.ต.อ.คมสิทธิ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เวลาประมาณ 01.15 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ใช้อาวุธมีดข่มขู่นายสันติ ศรีจันทร์ อายุ 19 ปี และนายอนุสรณ์ ดาลา อายุ 24 ปี เพื่อชิงเอาจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีแดง-เทา หมายเลขทะเบียน ษรม 951กทม. และขับหลบหนีไปบริเวณหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชัน
จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายคือนายสุรสิทธิ์ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชั้น2 ซอยพรหมวัฒน์ 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. พบนายสรุสิทธิ์อยู่ภายในห้อง ซึ่งนายสุรสิทธิ์รับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุตนขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม ซูเปอร์คัฟ สีเขียว-ขาว หมายเลขทะเบียน 3 กย 8163 กทม. โดยมีนายสรวิชญ์ วาละมุน หรือโส นั่งซ้อนท้าย เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ นายสันติและนายอนุสรณ์ขับขี่จักรยานยนต์สูบบุหรี่และเขี่ยขี้บุหรี่มาโดนตน ตนจึงขับจักรยานยนต์ไปประกบข้าง เป็นเหตุให้จักรยานยนต์ของนายสันติและนายอนุสรณ์เสียหลักล้มลง ตนและนายสรวิชญ์ได้วิ่งลงไปดู ซึ่งนายสรวิชญ์ใช้อาวุธมีดไล่ฟันนายสันติและนายอนุสรณ์ จากนั้นพวกตนได้ขับเอารถนายสันติหลบหนีไป
นอกจากนี้ นายสุรสิทธิ์ให้การเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นเอ็มซีอาร์ของสถานีโทรทัศน์ฟ้าให้ แต่เมื่อช่องถูกปิดตนจึงตระเวนก่อเหตุร่วมกับเพื่อนในลักษณะนี้ 3 ครั้ง ส่วนโทรศัพท์มือถือตนเอาไปขายย่านบางบอน เครื่องละ 500-600 บาท และก่อนหน้านี้เคยโดนข้อหาทะเลาะวิวาทในพื้นที่เพชรเกษม
ทั้งนี้ จักรยานยนต์คันดังกล่าวนายสุรสิทธิ์จะนำมาใช้ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บางมด จับกุม และยึดจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน ษรม 951 กทม.ไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบตรงกับจักรยานยนต์คันที่ถูกแจ้งหาย ทางเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวผู้เสียหายมาตรวจสอบของกลาง ก่อนจะดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.คมสิทธิ์กล่าวอีกว่า อีกคดีเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายเนติพงษ์ ปุริสาตร์ หรือแบงค์ อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยของกลางโทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง จักรยานยนต์ 2 คัน อาวุธมีด 1 เล่ม และเสื้อคลุมสีดำ 1 ตัว โดยจับกุมได้บริเวณห้องเช่าไม่มีเลขที่ พระราม 2 ซอย 50 แยก 5 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ในข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม
พ.ต.อ.คมสิทธิ์กล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เวลาประมาณ 00.15 น. ผู้ต้องหาและพรรคพวกอีก 3 คน ขับขี่จักรยานยนต์ 2 คันตระเวนไปตามเส้นทางสวนผัก จนกระทั่งถึงปากซอยสวนผัก 42/1 พบผู้เสียหายจำนวน 3 คนขับขี่จักรยานยนต์ผ่านมา นายเนติพงษ์และพรรคพวกจึงขับขี่จักรยานยนต์ตามผู้เสียหายไป จากนั้นจึงขับรถไปประกบข้างโดยใช้อาวุธมีดข่มขู่ให้หยุดรถ จากนั้นนายเนติพงษ์และพรรคพวกใช้อาวุธมีดข่มขู่เอาทรัพย์สินผู้เสียหาย ประกอบด้วย จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง กระเป๋าสะพาย 2 อัน และแหวน 1 วง ก่อนจะหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวน สน.ตลิ่งชัน ทราบว่านายเนติพงษ์หลบหนีไปอยู่ย่านบางขุนเทียน ทางเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุม
จากการสอบสวนนายเนติพงษ์ให้การว่า ที่ตนก่อเหตุดังกล่าวเพราะว่าร้อนเงินและไม่มีงานทำ ในทุกวันตนจะไปร้านเกมและเสพกัญชา การก่อเหตุแต่ละครั้งตนและพรรคพวกได้ตระเวนไปตามเส้นทางโดยใช้อาวุธมีดก่อเหตุทุกครั้ง โดยส่วนมากผู้เสียหายจะไม่ต่อสู้ ทั้งนี้ นายเนติพงษ์ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน คือ นายชรินทร์ โคตะการ อายุ 18 ปี นายศตวรรษ ฤทธิกระโทก อายุ 19 ปี ซึ่งทั้งสองกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนของการออกหมายจับ และนายหนู (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
