จับสาวแสบลักเงินลุงคู่ขาคนขายลอตเตอรี่ย่านราชดำเนิน

 
MGR Online - จับสาวแสบลักทรัพย์ลุงคนสนิทขายลอตเตอรี่ย่านราชดำเนิน หลังนัดกันไปหลับนอนเป็นประจำแลกกับเงินช่วยเหลือเป็นประจำ ผู้ต้องหาสารภาพต้องการนำเงินไปจ่ายค่าห้องและหนี้นอกระบบ

จากกรณีที่ น.ส.ปราณี เชื้อเสือ อายุ 35 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม หลังพบว่า นายทวี เอื้อเสือ อายุ 64 ปี บิดาผู้พิการมีอาชีพขายลอตเตอรี่ ถูกทำร้ายร่างการจนสลบและถูกขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ เหตุเกิดที่ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ น.ส.ปราณีให้การว่า ขณะที่พ่อของตนกำลังรอรถเมล์เพื่อเดินทางกลับที่พักบริเวณถนนราชดำเนินกลาง จากนั้นมีผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี เดินเข้าทำทีตีสนิทแล้วหญิงคนดังกล่าวได้ใช้มือลูบที่แขนของบิดา จากนั้นบิดาของตนก็สลบไป มาเริ่มรู้สึกตัวอีกทีก็มีผู้หวังดีช่วยพาขึ้นรถแท็กซี่มาส่งที่พัก

วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม และ พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤดากร ณ อยุธยา สว.สส.สน.ชนะสงคราม ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นางพนารัตน์ มิ่งส่วน อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/4 ม.7 ต.ในคลองบางปลากด จ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลาง 1. สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 17 ธ.ค. 58 จำนวน 250 ใบ มูลค่า 20,000 บาท 2. นาฬิกายี่ห้อไซโก้ 1 เรือน 3. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อทรู สีเทา-ดำ 1 เครื่อง 4. กระเป๋าสะพายสีดำ ที่ผู้ต้องหาใช้ในวันเกิดเหตุจำนวน 1 ใบ 5. กางเกงขายาวสีน้ำเงิน 1 ตัว และเสื้อเชิ้ตสีแดง 1 ตัวที่ผู้ต้องหาใส่ในวันเกิดเหตุ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ในข้อหาลักทรัพย์

นางพนารัตน์กล่าวว่า ตนและนายทวีคบหาดูใจกันมาได้ 3 ปีแล้ว นายทวีจะมาหาเดือนละ 2-3 ครั้ง และให้เงินครั้งละ 500-600 บาท โดยจะไปหลับนอนกันที่โรงแรมหลังกระทรวงมหาดไทย โดยแต่ละครั้งที่นัดเจอกันนายทวีจะเป็นคนโทรมานัดและเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน (5 ธ.ค.) นายทวีได้โทรนัดให้มาเจอกัน และก่อนจะแยกย้ายกันนายทวีได้ให้ตนถือกระเป๋าสะพายซึ่งด้านในมีเงินสดจำนวน 7,000 บาท และลอตเตอรี่จำนวนมาก เมื่อตนเห็นก็คิดอยากได้ประกอบกับตนต้องนำเงินไปจ่ายค่าห้องและหนี้นอกระบบจึงตัดสินใจขโมยเงินดังกล่าว โดยให้นายทวีรออยู่บนห้องส่วนตนจะไปเรียกแท็กซี่ เมื่อออกมาจากห้องตนก็ได้ได้นั่งแท็กซี่หลบหนี

นางพนารัตน์กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกผิดและเสียใจมากที่ทำแบบนี้เพราะนายทวีเป็นคนดีเป็นผู้มีพระคุณ คอยช่วยเหลือกันมาตลอด เหตุที่เกิดขึ้นเกิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ตนแค่อยากได้เงินไปจ่ายค่าห้องจำนวน 3,000 บาท และหนี้นอกระบบที่ตนได้ไปกู้ยืมมาจำนวน 3,000 บาท

น.ส.ปราณีกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกผิดมาเพราะเพิ่งทราบเรื่องทั้งหมดเมื่อคืนนี้ และรู้สึกเหมือนไปพูดหลอกลวงสื่อมวลชน ต้องขอโทษพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากวันที่ น.ส.ปราณีไปแจ้งความและได้ให้การว่านายทวีถูกคนร้ายเข้ามาตีสนิทและหลังจากนั้นนายทวีก็สลบไป เชื่อว่าอาจจะถูกคนร้ายป้ายยา ในภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายทวีไปตรวจร่างกายที่กองพิสูจน์หลักฐาน แต่ผลปรากฏว่าไม่พบสารหรือสิ่งผิดปกติใด