พบ “พานทองแท้” มีเอี่ยวฟอกเงินธนาคารกรุงไทยเพิ่มในกลุ่มปล่อยกู้ “อาร์เคโปรเฟสชั่นแนล” 500 ล้านบาท หลังปรากฏชื่อในกลุ่ม 9.9 พันล้านบาทที่ปล่อยกู้ให้บริษัทเครือกฤษดาก่อนหน้านี้ เตรียมทยอยเรียกผู้เกี่ยวข้องชุด 500 ล้านบาทให้ปากคำเพิ่มก่อนกลางเดือน ธ.ค.นี้
ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีฟอกเงินที่ปล่อยกู้โดยมิชอบจากธนาคารกรุงไทย หลังจากได้มีการแบ่งคณะทำงานออกเป็น 2 ชุด ได้แก่ 1. กลุ่มปล่อยกู้บริษัท อาร์เคโปรเฟสชั่นแนล จำกัด (เครือกฤษดามหานคร) 500 ล้านบาท มีผู้เกี่ยวข้องจำนวน 32 คน ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีเครือข่ายนักการเมืองเกี่ยวข้อง 2.กลุ่มปล่อยกู้บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (เครือกฤษดามหานคร) 9.9 พันล้านบาท ชุดนี้มีชื่อของเครือข่ายการเมืองมาเกี่ยวข้อง
ล่าสุด วันนี้ (4 ธ.ค.) พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า สำหรับกลุ่ม 500 ล้านบาทนั้นจากการตรวจสอบปรากฏชื่อเพิ่มอีก 5 ชื่อรวมเป็น 37 รายชื่อ ซึ่งเมื่อตรวจสอบตามทะเบียนราษฎร (ทร.14) พบว่ามีบุคคลชื่อนามสกุลซ้ำกันหลายคนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาคัดกรองบุคคลที่น่าจะเป็นไปได้ เช่น คนหนึ่งมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านอยู่ภาคเหนือ ส่วนอีกคนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน กรุงเทพฯ และก็มาวิเคราะห์พื้นที่กับอายุว่าบุคคลใดน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากทราบชื่อและที่อยู่แน่ชัดจะส่งหนังสือเชิญนัดวันเวลาเพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ ยังมีชื่อของนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตร มาอยู่ในกลุ่มนี้เพิ่มซึ่งมีส่วนรับเงินโดยตรง และจะเรียกมาสอบถึงมูลเหตุเกิดจากอะไร
พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวอีกว่า กลุ่ม 9.9 พันล้านบาท มีบุคคลเกี่ยวข้องถึง 60 คน ทำให้การทำงานยาก เนื่องจากจำนวนคนค่อนข้างเยอะ โดยการตรวจสอบแบ่งออกเป็น 2 ชุด คือ 1.หุ้นผู้มีอุปการคุณของท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย 2.คนรับเงินโดยตรง ซึ่งกลุ่มนี้ที่ผ่านมาบางส่วนได้มีการสอบปากคำบ้างแล้วแต่อีกบางคนยังไม่ได้ให้การแต่อย่างใด นอกจากนี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท ฮาวคัม จำกัด และบริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด ในเครือของบริษัท ฮาวคัม ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนจะมีการเซ็นคำสั่งส่งหนังสือไปตามทะเบียนบ้านของผู้ที่เกี่ยวข้องชุดแรก กลุ่ม 500 ล้านบาทก่อน คาดว่าช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้จะทยอยมาให้ปากคำได้