สน.ประเวศ รวบอริต่างสถาบันยกพวกตีกัน เจ็บ 1 ตาย 1

MGR Online - “ศานิตย์” แถลงจับกุมนักเรียนนักเลงอาชีวะต่างสถาบันยกพวกตีกันบริเวณหน้าตลาดเอี่ยมสมบัติ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เตรียมวางโครงการเอาพวกแกนนำของแต่ละสถาบันมาละลายพฤติกรรม 2 คืน 3 วัน

วันนี้ (25 พ.ย.) เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รรท.รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รรท.รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.ต.ปกณณ์ ทองช่วง รรท.รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ต.ธงชัย แก้วทา สว.สส.สน.ประเวศ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสิทธิศักดิ์ หรือดี่ จรกา อายุ 18 ปี, นายปริมินทร์ หรือโอด แก่นทอง อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีบางกะปิ และนายอภิสิทธิ์ หรือบอย เหลือหลาย อายุ 20 ปี นักเรียนเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ พร้อมของกลางปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระเป๋าสะพาย อาวุธปืนปากกา 1 กระบอก กระสุนปืน 1 นัด มีดปลายแหลม 6 เล่ม โดยจับกุมนายสิทธิศักดิ์ และนายปริมินทร์ได้ที่ซอยอนามัย แขวงและเขตสวนหลวง กทม. และจับกุมนายอภิสิทธิ์ได้ที่บริเวณป้ายจอดรถหน้าตลาดเอี่ยมสมบัติ ถ.ศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เวลาประมาณ 08.10 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุนักเรียนตีกันที่บริเวณหน้าหน้าตลาดเอี่ยมสมบัติ ถ.ศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายปริญญา ทองสิงห์ อายุ 17 ปี ถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงบริเวณเอวด้านหลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายชนายุทธ มั่นคง อายุ 16 ปี ก่อนรีบนำส่ง รพ.วิภาราม นอกจากนี้ยังพบนักเรียนอาชีวะจำนวน 5 รายที่อยู่ฝั่งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมอาวุธมีดและปืนจึงนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ประเวศ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มนักเรียนอาชีวะจำนวน 7 ราย มีมือยิง 2 ราย คือ นายซุป และนายอุบ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี โดยหลังจากก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคู่อริได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตและได้ขึ้นรถแท็กซี่สีชมพูหลบหนีไป ทางฝ่ายสืบสวนจึงได้เชิญตัวนักศึกษารุ่นพี่ของนักศึกษากลุ่มที่ก่อเหตุมาสอบถาม และพยายามเกลี้ยกล่อมญาติให้นำตัวบุตรหลานมามอบตัวต่อตำรวจ กระทั่งเมื่อวันที่ 25 พ.ย.เวลาประมาณ 04.00 น. ผู้ก่อเหตุทั้ง 7 รายได้เดินทางมามอบตัวที่ สน.ประเวศ

สอบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนสถาบันอาชีวะ ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่ว่าเกิดจากความหวาดระแวงระหว่างสถาบัน ทั้งนี้ทราบว่ากลุ่มนักเรียนสถาบันหนึ่งนั่งรถโดยสารสาย 207 จากปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถ.ศรีนครินทร์ เพื่อไปเรียน เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุหน้าป้ายเมล์หน้าตลาดเอี่ยมสมบัติ ถ.ศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ได้พบนักเรียนของอีกสถาบันหนึ่งกำลังรอรถประจำทางอยู่ เมื่อคนขับรถเมล์เห็นจึงเกรงว่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันจึงไม่จอดรับ แต่เนื่องจากว่ามีผู้โดยสารบางส่วนต้องการที่จะลงทำให้ต้องหยุดรถ จากนั้นนักเรียนที่อยู่บนรถเมล์ได้วิ่งกรูลงจากรถ ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

จากการสอบสวนนายสิทธิศักดิ์ ฝ่ายก่อเหตุอ้างว่าปกติอาจารย์สถาบันตนจะกำหนดเวลาให้เดินทางไปโรงเรียนในเวลา 08.10-08.30 น. ในทุกเช้าตนและกลุ่มเพื่อนจะมารวมตัวกันบริเวณหน้าตลาดศรีเอี่ยม วันเกิดเหตุขณะรอรถเมล์สาย 207 อยู่ ฝ่ายคู่อริที่อยู่บนรถคันดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนปากกามาขู่ ตนจึงโบกรถสาย 145 ที่กำลังขับตามหลังมา หลังจากนั้นนักเรียนฝั่งคู่อริได้ลงจากรถสาย 207 และเอาปืนมาจ่อ จากนั้นนายอุบและนายซุฟซึ่งขับขี่จักรยานยนต์ตามมาได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มนักเรียนฝั่งคู่อริ

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ฝ่ายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุนั่งรถเมล์สาย 207 มาแล้วเจอกลุ่มคู่อริตะโกนท้าทาย แล้วขึ้นรถเมล์สาย 145 ไป แล้วถ้าพวกตนไม่ลงไปก็จะไปดักทำร้ายที่แยกพัฒนาการ ทำให้รุ่นน้อง 2 คนวิ่งลงไปดูน้องอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ปี 1 ไม่อยากให้ลงไปคนเดียว เมื่อรุ่นน้อง 2 คนวิ่งลงไปก็ร้องตะโกนว่าโดนยิงเข้าที่เอวและมือ จึงบอกให้ถอยวิ่งข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของฟากถนน จากนั้นถูกกลุ่มคู่อริข้ามไปยิงรุ่นน้องของตนเองอีกคนจนเสียชีวิต จึงพารุ่นน้องทั้ง 2 คนส่งโรงพยาบาล ตนไม่ทราบเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร เพราะเป็นคนที่พยายามห้าม โดยมีพยานเห็นว่าตนอยู่บนรถเมล์ อย่างไรก็ตาม พวกตนไม่ได้มีการจี้รถเมล์ให้หยุดวิ่งแต่อย่างใด ตนก็เคยเสียเพื่อนไปแล้วคนหนึ่ง ตนดร็อปเรียนไปเพิ่งกลับมาเรียนอีกครั้งและไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว

ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุจะมีโครงการนำเอาหลายสถาบันมาอบรมอยู่ด้วยกัน 2 คืน 3 วัน เอาพวกแกนนำตัวตั้งตัวตีมาละลายพฤติกรรมว่าทำไมถึงมีเหตุโกรธเคืองกัน ให้มาผูกมิตรต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.นันทชาติกล่าวว่า มาตราการในการป้องกันเหตุทางเจ้าหน้าที่ก็ทำอยู่เรื่อย คือการนำกำลังลงพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ บก.น.4 ได้นำกำลังจากต่าง สน.มาช่วยในการตรวจค้น ออกตรวจในช่วงก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียน แต่วิธีการของนักเรียนที่จะก่อเหตุมีการเปลี่ยนแปลง โดยเลือกที่จะก่อเหตุในช่วงเวลาอื่น เป็น 06.00 น. หรือ 21.00 น. ก็อยากฝากให้พี่น้องประชาชนทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากมีเบาะแสหรือเหตุการณ์ที่เข้าข่ายหรือไม่ปลอดภัยกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ด่วน ส่วนมาตรการป้องกันเหตุที่ประชาชน เยาวชนส่วนใหญ่ใช้อาวุธปืน และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองนั้น ทางเจ้าหน้าที่มีการจับกุมตลอดเวลา เพราะการซื้อขายปืนเถื่อนในปัจจุบันก็ซื้อง่ายไปง่าย เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นวัยรุ่นที่พฤกติกรรมน่าสงสัย ซึ่งส่วนมากก็มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยเจ้าหน้าที่จับได้ทุกวัน แม้กระทั่งในโลกออนไลน์ก็มีขาย และอีกอย่างเด็กส่วนมากที่มีอาวุธส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน และจะต้องส่งสถานพินิจดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดมีทั้งสิ้น 14 ราย คือ ฝ่ายกลุ่มผู้ก่อเหตุยิงประกอบด้วย นายซุป (นามสมมติ) อายุ 16 ปี, นายอุบ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายลีฟ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายเลาะ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายหลง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายสิทธิศักดิ์ หรือดี่ จรกา อายุ 18 ปี, นายปริมินทร์ หรือโอด แก่นทอง อายุ 18 ปี แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่า, ร่วมกันพยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, พาอาวุธไปในเมือง หมูบ้าน ทางสาธารณะฯ

ฝ่ายกลุ่มผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายซี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายดี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายปริญญา ทองสิงห์ อายุ 17 ปี (เสียชีวิต), นายอี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บ, นายอภิสิทธิ์ หรือบอย เหลือหลาย อายุ 20 ปี แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันพาอาวุธปืน,อ าวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะฯ