MGR Online - ตำรวจ สน.ศาลาแดง จับหนุ่มใหญ่ตระเวนลักทรัพย์สินตามบ้านที่ไม่มีคนอยู่ มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท อ้างตกงานไม่มีเงินใช้จ่าย ก่อนขยายผลรวบเพื่อนช่วยหลอมทองคำไปขายตามร้านทองย่านวงเวียนใหญ่ พบประวัติโชกโชนก่อเหตุมาแล้วหลายคดี
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รรท.รอง ผบช.น. พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รรท.ผบก.น.7 พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิต ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.อ.ณฐกร คุ้มทรัพย์ ผกก.สน.ศาลาแดง พ.ต.ท.สิทธิพล แสวงบุญ สว.กก.สส.บก.น.7 แถลงผลการจับกุม นายสมชาย อุทะโย หรือสม อายุ 42 ปี และนายวัชรินทร์ เสาเวียง หรือเป้า อายุ 34 ปี พร้อมของกลางทองคำแท่งหนักแท่งละ 10 บาท จำนวน 18 แท่ง มูลค่า 3,420,000 ล้านบาท, ทองคำแท่งหนักแท่งละ 20 บาท จำนวน 5 แท่ง มูลค่า 1,900,000 ล้านบาท, สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 3 เส้น มูลค่า 60,000 บาท, ชุดเครื่องประดับเพชร 1 ชุด มูลค่า 1,500,000 ล้านบาท, เงินสด 100,000 บาท ของกลางทั้งหมดรวม 6,980,000 บาท โดยจับกุมนายสมชายได้ที่บริเวณระเบียงด้านหลังห้องเลขที่ 411 ชั้น 4 ออมสินอพาร์ทเม้นต์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และจับกุมนายวัชรินทร์ได้บริเวณชุมชนวัดโพธิ์แจ้ ซอยบ่อวิน ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร แจ้งข้อหานายสมชายว่าลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ และแจ้งข้อหานายวัชรินทร์ว่าลักทรัพย์หรือรับของโจร
พ.ต.อ.ณฐกรกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย. เวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านเลขที่ 232 ซอยบางแวก ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ กทม. ได้ทรัพย์สินทองคำแท่ง ชุดเครื่องเพชร และเงินสด รวมมูลค่า 6,980,000 บาท หลังเกิดเหตุชุดจับกุมได้ตรวจสอบภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงทั้งหมด ปรากฏภาพผู้ต้องหาสวมเสื้อยืดแขนสีเหลือง กางเกงขายาวสีน้ำเงิน สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว สวมหมวกนิรภัยสีขาวคาดแดง-น้ำเงิน ใช้จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ 150 ซีซี สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 4 กฌ 803 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะในการกระทำผิดและหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพผู้ต้องหาและภาพจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาส่งไปทางไลน์กลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง และเครือข่ายประชาชนเฝ้าระวังภัย สน.ศาลาแดง จนได้เบาะแสของผู้ต้องหา กระทั่งติดตามจับกุมนายสมชายได้ที่บริเวณระเบียงด้านหลังห้องเลขที่ 411 ชั้น 4 ออมสินอพาร์ทเม้นต์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
จากการสอบสวนนายสมชายให้การรับสารภาพว่า เมื่อก่อนมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าแต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว สาเหตุที่ออกมาตระเวนลักทรัพย์เนื่องจากทะเลาะกับภรรยาทำให้ไม่มีเงินใช้จ่าย โดยทุกครั้งที่ลงมือก่อเหตุจะเลือกช่วงเวลา 09.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ โดยตนจะทำทีไปกดกริ่งหน้าบ้านและสังเกตว่าประตูรั้วมีการใส่กุญแจ หากไม่มีใครออกมาเปิดก็จะใช้คีมตัดประตูเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่เป็นทองคำจะนำไปให้นายวัชรินทร์ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงหลอมช่วยหลอมให้ จากนั้นจะนำไปขายที่ร้านทองย่านวงเวียนใหญ่ ได้เงินมาจำนวน 5,300,000 บาท โดยตนแบ่งให้นายวัชรินทร์ 500,000 บาท และนำไปซื้อจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นฟอร์ซ่า 1 คัน ราคา 165,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือนำไปใช้เที่ยวเตร่
นายสมชายยังรับสารภาพอีกว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์ในลักษณะนี้มาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ได้แก่ (1. ประมาณปลายเดือน ธ.ค. 57 ลักทรัพย์ในท้องที่ สน.บางพลัด ได้ทรัพย์สิน 2,000,000 บาท (2. ประมาณเดือน ม.ค. 58 ลักทรัพย์ในท้องที่ สน.บางพลัด ได้ทรัพย์สิน 100,000 บาท (3.ประมาณเดือน ก.พ. 58 ลักทรัพย์ในท้องที่ สน.บางยี่ขัน ได้ทรัพย์สิน 120 บาท (4. ประมาณเดือน มี.ค. 58 ลักทรัพย์ในท้องที่ สน.บางเสาธง ได้ทรัพย์สินอาวุธปืน 2 กระบอก สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง และ (5. เมื่อประมาณเดือน เม.ย. 58 ลักทรัพย์ในท้องที่ สน.หลักสอง ได้ทรัพย์สินเป็นทองคำแท่งหนัก 120 บาท
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่านายสมชายเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2546 ท้องที่ สน.บางซื่อ คดีลักทรัพย์ในท้องที่ สน.พหลโยธิน และวันที่ 1 ก.ย.ข้อหาครอบครองยาเสพติดในท้องที่ สน.เตาปูน เคยถูกศาลตัดสินจำคุก 56 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมา 2 ปีก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม นายสมชายได้สาบานต่อหน้าพระพุทธรูปว่า “ข้าพเจ้านายสมชาย อุทะโย ขอสาบานว่าต่อไปนี้ถ้าข้าพเจ้าได้พ้นโทษออกมา ข้าพเจ้าจะไม่ทำอาชีพแบบเดิมอีกแล้ว ข้าพเจ้าจะประพฤติตนเป็นคนดีต่อสังคม”
