xs
xsm
sm
md
lg

แม่ร้องกองปราบช่วยสางคดีฆ่าเภสัชฯ สาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - มารดาเภสัชฯ เดินทางร้องเรียน บก.ป. กรณีลูกสาวถูกมือปืนยิงเสียชีวิต แต่คนร้ายแกล้งตาย พร้อมปลอมแปลงใบมรณบัตรหวังรอดพ้นผิด สุดท้ายพบพิรุธรื้อคดีใหม่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเอกสารเท็จ

วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.20 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย นางฤดีมาษ สิงห์มณี มารดาของ น.ส.ริ้วแพร โชติการ อายุ 26 ปี เภสัชกรโรงพยาบาลควนเนียง ที่ถูกมือปืนยิงเสียชีวิต เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ให้เอาผิดกับ นางจุรีย์ จันทร์งาม หลังร่วมกับบุตรสาว คือ น.ส.รัศมี จันทร์งาม สร้างเอกสารเท็จ แจ้งข้อมูลออกเอกสารใบมรณบัตรโดยมิชอบ ทำให้ นางจุรีย์ ซึ่งขณะนั้นกำลังถูกศาลอุธรณ์ จ.สงขลา พิจารณาความผิดฐานจ้างวานฆ่า สามารถหลบหนีคดีได้

นายสงกานต์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2550 มือปืนได้บุกยิง น.ส.ริ้วแพร ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่คลินิกเวชกรรมของ นพ.รังสรรค์ รัตนพันธ์ ในพื้นที่ อ.ควนเนียง จ.สงขลา พร้อมด้วย นายอดิศร์ ประทีปทัศน์ พนักงานจัดยา ที่ยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์อย่างโหดเหี้ยม อีกทั้งยังทราบอีกว่า ผู้เสียชีวิตกำลังจะแต่งงานกับ นายวิกรม จันทร์งาม อายุ 36 ปี พนักงานธนาคาร บุตรชายเพียงคนเดียวของ นางจุรีย์ ในวันที่ 29 ธันวาคม 2550 แต่ นางจุรีย์ ไม่ยินยอม เนื่องจากบ้านตนมีฐานะดี เป็นเศรษฐีและมีหน้ามีตา ส่วนครอบครัว น.ส.ริ้วแพร นั้น มีฐานะด้อยกว่า จากนั้น นางจุรีย์ ก็ประกาศว่าหากไม่ยกเลิกงานแต่งงานก็จะจัดงานศพแทน

นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ ทางกองกำกับการ 6 ได้รื้อฟื้นคดีนี้ จึงอยากให้ตรวจสอบผู้ใหญ่บ้าน และบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ออกเอกสารใบมรณบัตรโดยมิชอบให้กับ น.ส.รัศมี โดยไม่มีการตรวจสอบ เป็นเหตุให้ น.ส.รัศมี ใช้เป็นหลักฐานปลอมในการช่วย นางจุรีย์ หลบหนีคดีความ ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.รัศมี ได้ประกัน นางจุรีย์ โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงิน 5 ล้านบาท แต่ภายหลังกลับแจ้งต่อศาลว่ามารดาเสียชีวิตแล้ว และมีการนำใบมรณบัตรมายืนยันศาล จึงได้คืนหลักทรัพย์ประกันให้แก่ น.ส.รัศมี อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลฎีกาตรวจสอบกลับพบว่า มีพิรุธ และพบว่า ความจริง นางจุรีย์ ยังไม่เสียชีวิต แต่กลับแกล้งตายเพื่อหนีคดีความดังกล่าว

ด้าน นางฤดีมาศ เปิดเผยว่า ที่เข้ามาร้องทุกข์ในครั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้พบว่า นางจุรีย์ มีการแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว กลับยังคงใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา และได้มีการเสนอเงินจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อให้จบคดีความ แต่ตนไม่ยอม เพราะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบุตรสาว พร้อมทั้งต้องการนำตัว น.ส.รัศมี มารับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว

ส่วน พ.ต.ท.ธราดล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ บก.ป.กก.6 ได้ลงพื้นที่ใน จ.สงขลา เพื่อติดตามตัว นางจุรีย์ และ น.ส.รัศมี แล้ว จากการตรวจค้นไม่พบผู้ต้องหาแต่อย่างใด ทั้งนี้ทราบว่า นางจุรีย์ เดิมทีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สงขลา แต่เมื่อมีการแจ้งเสียชีวิตได้ย้ายภูมิลำเนาไปที่ จ.ชุมพร ซึ่งผู้ต้องหามีการวางแผนเป็นอย่างดีในการหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้และจะรายงานต่อ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ให้ทราบโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานและทำหนังสือยื่นต่อศาล จ.สงขลา เพื่อขอเอกสารคำให้การของจำเลยและพยาน พร้อมทั้งจะลงพื้นที่ใน จ.ชุมพร เพื่อสอบถามข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกใบมรณบัตรโดยมิชอบ โดยจะเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น