MGR Online - ตำรวจปราบปรามยาเสพติดแถลงการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ 4 คดี ได้ผู้ต้องหา 14 ราย ของกลางยาบ้ากว่าล้านเม็ด ยาไอซ์ และอื่นๆ อีกเพียบ
วันนี้ (13 พ.ย. 58) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กองบังชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ภายในสโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.(ปส.1) พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปส.13) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.เพชรรัตน์ แสงไชย รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ผบก.ปส.4 พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม จับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญรวม 4 คดี
คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา 6 คน คือ นายจักรกฤช ทิพพชัย อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น, นายนรินทร์ แพงคำอุ้ย อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดนครพนม, น.ส.จันทิมา รัตนวงค์ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดนครพนม, นายพงษ์พิพัฒน์ สุวรรณศรี อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดนครพนม, น.ส.กรรณิการ์ สุวรรณศรี อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก, นายอุทิศ ทรทึก อายุ 20 ปี ชางจังหวัดนครพนม พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะเม็ดกลมแบนสีส้ม จำนวน 1,002,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซุกิ รุ่นเซียส สีขาว ทะเบียน (ป้ายแดง) ก 0633 นครพนม, รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนครึ่ง รุ่นดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน บจ 7597 มุกดาหาร, รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนครึ่ง รุ่นดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ฒย 5767 กทม. และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง
โดย พล.ต.ต.ชาตรีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนหาข่าว กระทั่งทราบว่าจะมีกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือขนยาเสพติดไปส่งภาคใต้ โดยใช้รถยนต์ซูซุกิ รุ่นเซียส สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก 0633 นครพนม จึงสะกดรอยติดตามรถยนต์คันดังกล่าวจนกระทั่งถึงบริเวณเสาไฟฟ้าแรงสูง พื้นที่ ม.1 บ้านคลองไอ้โต ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จังหวัดพัทลุง นายจักรกฤชได้จอดรถและเดินหายไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจค้นเปิดรถยนต์คันดังกล่าว พบยาบ้า 495 มัด จำนวนเม็ดยาทั้งสิ้น 1,002,000 เม็ด ต่อมาสามารถจับนายนรินทร์ และ น.ส.จันทิมา ทำหน้าที่ขับรถนำทาง ที่ด่านตรวจท่าซี อ.บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลไปสกัดจับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ฒย 5767 กทม. ที่นายจักรกฤช, นายพงษ์ พิพัฒน์, น.ส.กรรณิการ์ และนายอุทิศใช้หลบหนีที่ด่านตรวจยานพาหนะบ้านพละ ต.มาบอมฤต อ.ปะทิว จังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลถึงผู้กระทำความผิดต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบอำมฤต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.414 ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 คน คือ นายซาตา สามะ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี, นายรอมือลี ยาแม อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี และนายบัฮรุดดีน บินอุเซง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะเม็ดกลมแบนสีส้ม จำนวน 144,000 เม็ด ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กว 740 สงขลา โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
พล.ต.ต.ชาตรีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพรได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงทางภาคใต้ โดยใช้รถยนต์อีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กว 740 สงขลา เป็นพาหนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านชุมพรจึงได้ผสานกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.414, สภ.ท่าแซะ, สภ.บ้านมาบอำมฤต, สภ.ปะทิว, สภ.สลุย และ กก.ปพ.บก.สส.ภ.8 ร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-ชุมพร) กระทั่งพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น พบนายซาตาเป็นผู้ขับขี่ และพวกนั่งโดยสารมาด้วย จึงขอตรวจค้นรถยนต์ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 144,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีตามกฎหมาย และสอบสวนขยายผลถึงผู้กระทำความผิดต่อไป โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย (สมาชิกแก๊งโอรส) นายบารมี หรือบาสโอรส แสงศิริ อายุ 25 ปี, น.ส.รัชฎา คำสาสาสินธ์ อายุ 26 ปี และนายจักรกฤษ เจ๊ะวังมา อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ 24.4 กรัม ยาบ้า 524 เม็ด กัญชา 2.7 กรัม
พล.ต.ท.เรวัชกล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 10 พ.ย. 58 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นปส.นิลพัทธ์ กก.2 บก.ปส.1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าสามารถติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจากนายบารมี และน.ส.รัชฎาได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้สายลับติดต่อเจรจาซื้อยาเสพติดจากบุคคลทั้งสอง ผลการเจรจาตกลงซื้อขายไอซ์จำนวน 100 กรัม ในราคา 130,000 บาท และยาบ้า 200 เม็ด ในราคา 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 150,000 บาท โดยมีการนัดส่งมอบที่ร้านซาวด์เช็ก คาราโอเกะ ชั้นที่ 7 ของห้างดังกล่าว ในวันที่ 11 พ.ย. เวลา 15.00 น.
โดยเจ้าหน้าที่ได้อำพรางตัวในการล่อซื้อ เมื่อถึงเวลานัดหมายผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้มาพบและเจรจากัน ก่อนที่ น.ส.รัชฎาได้ส่งมอบของให้เจ้าหน้าที่ล่อซื้อ เมื่อตรวจพบว่ามียาเสพติดอยู่ภายในกระเป๋าดังกล่าวจริงจึงได้แสดงตัวจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 4 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต
คดีที่ 4 พ.ต.อ.ภวินทร์ ภานุมาส ผกก.2 บก.ปส.1 และเจ้าหน้าที้ตำรวจในสังกัด สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย นายสุดเขตฐ์ หรือฟุ้ง ทิพย์รัตน์ อายุ 17 ปี, นายอลงกต หรือเติ้ล แป้นทอง อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 94.4 กรัม สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านเมืองทองเครื่องเขียน ถ.พะเนียง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ในวันที่ 12 พ.ย. 58 เวลา 14.05 น.
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นปส.นิลพัทธ์ กก.2 ได้ร่วมกันจับกุมนายบารมี หรือบาส โอรส แสงศิริ และนายบาส โอรส ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ในการล่อซื้อไอซ์จากนายอลงกต หรือเติ้ล แป้นทองดี ในจำนวน 1,000 กรัม ในราคา 95,000 บาท โดยนายเติ้ลได้นำไอซ์มาส่งมอบแก่สายลับในสถานที่ดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต