MGR Online - รองโฆษก ตร.ระบุตำรวจยังไม่เข้าไปสอบสวนความผิดการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ แม้อดีต ผบ.ทบ.จะออกมาปูดข้อมูลการทุจริต ย้ำต้องมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ คาดสัปดาห์หน้ามีความชัดเจนสำนวนคดีหมิ่นสถาบันฯ ขณะที่ “เสธ.โจ้” ยังไม่รู้แหล่งกบดาน สั่งทุกด่าน ตม.ติดตาม
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงหาผลประโยชน์ว่า ขณะนี้การดำเนินคดีกับกลุ่มแอบอ้างสถาบันฯ ยังไม่มีการขยายผลไปถึงกรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีเพียงกลุ่มของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยองเท่านั้น และล่าสุดได้รับคดีเพิ่มมาอีก 3 คดีซึ่งเป็นคดีในกลุ่มแรกเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่จำเป็นต้องเชิญ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ มาให้ข้อมูล เนื่องจากขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษเกี่ยวกับกรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนที่นายสุริยัน หรือหมอหยอง จะเสียชีวิตตำรวจได้สอบปากคำถึงกรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ ขณะนี้ตำรวจรับผิดชอบคดีในส่วนของคดีหมิ่นสถาบันฯ เท่านั้น โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันฯ ก็ต้องดำเนินการสอบสวนในอีก 3 คดี ที่ได้รับแจ้งเพิ่มเข้ามาเพิ่มเติม ในส่วนของ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ต้องหาเสียชีวิตไม่มีอุปสรรคต่อการสอบสวนแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า การเสนอสำนวนขึ้นมาที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ของทางพนักงานสอบสวนที่มี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท. รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุด ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ เป็นการเสนอเพื่อขอใช้พนักงานสอบสวนชุดเดิมที่สอบสวนคดีหมิ่นสถาบันฯ เนื่องจากเป็นในอีก 3 คดีที่ได้รับมาเพิ่มเติมเป็นคดีในกลุ่มเดียวกัน โดยตอนนี้กำลังสอบสวนเพิ่มเติมอยู่
เมื่อถามว่าตามขั้นตอนกฎหมายตำรวจต้องไปขอให้ศาลจำหน่ายคดีในส่วนของผู้ที่เสียชีวิต พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 อนุ 1 ระบุไว้ว่าคดีอาญาย่อมระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำผิด ฉะนั้นคดีนี้ก็เป็นกระบวนการสอบสวนว่าผู้ต้องหาถึงแก่ความตายแล้วสำนวนจะจบอย่างไร
ถามว่าหากขึ้นศาลและมีการเบิกตัวผู้ต้องหาที่ยังมีชีวิตรอยู่กับคำให้การของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วอะไรมีน้ำหนักมากกว่ากัน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปเรียนถามศาล ตนไม่ทราบ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการติดตาม พ.อ.คชาชาต หรือผู้การโจ้ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวอยู่ เชื่อว่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องมาได้ เพราะคดีใหญ่ๆ ที่ผ่านมา เช่น คดีระเบิดแยกราชประสงค์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ก็สามารถจับผู้ต้องหามาจนได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า พ.อ.คชาชาตหนีไปที่ใด และไม่ทราบว่าเป็นไปตามกระแสข่าวว่าไปประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ตอนนี้ส่งข้อมูลไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศให้ติดตามแล้ว
ถามว่าหาก พ.อ.คชาชาตหนีไปประเทศที่ไม่มีมาตรา 112 โอกาสได้ตัวจะน้อยลงหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับการประสานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
ถามต่อว่าถ้าผู้ต้องหาหนีไปประเทศพม่าจะมีกฎหมายส่งตัวคนร้ายตามมาตรา 112 หรือไม่ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า มีเพียงคดีความมั่นคงบางเรื่อง แต่มาตรา 112 ไม่มี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับทางการพม่าแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่าผู้ต้องหาหนีไปพม่า ส่วนกระแสข่าวว่ามีบุคคลหน้าคล้าย พ.อ.คนหนึ่งเดินทางออกไปที่ด่านแม่สอด จ.ตาก ก็ได้ตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่ปรากฏหลักฐาน ตำรวจทำตามขั้นตอนกฎหมายไม่ได้ล่าช้า
ถามย้ำว่าแสดงว่าหลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศผ่านจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-พม่า เมื่อเวลา 06.35 น.วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาของ พ.อ.คชาชาติเป็นของปลอม พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า การตรวจสอบยังไม่ปรากฏหลักฐานแบบนั้น แต่ถ้ามีการปลอมแปลงก็ต้องดำเนินการ แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลปรากฏ
“ผู้ต้องหาคนใดก็ตามที่มีหมายจับจะเดินทางเข้าหรือออกจากประเทศต้องจับกุมอยู่แล้ว สว่นการเพิกถอนหนังสือเดินทางนั้นเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ตำรวจมีอำนาจเพียงออกประกาศสืบจับคนร้ายตามกฎหมายเท่านั้น เรื่องนั้นยังมาไม่ถึง” รองโฆษก ตร.ระบุ
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า การตรวจสอบกรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น หากมีผู้มาร้องทุกข์ก็ต้องตรวจสอบตามขั้นตอน ซึ่งคดีแบบนี้ต้องมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ตอนนี้ยังไม่มี ถ้ากองทัพไม่มีการร้องทุกข์คดีก็จบไป หากมีข้อมูลปรากฏก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน และหากพบผู้ต้องหาเพิ่มเติมก็ต้องสอบสวนขยายผลโดยคาดว่าว่าในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนแน่นอน