MGR Online - ผบ.ตร.เปิดโครงการปรับทัศนคติ ตม. ให้มีจิตสำนึกดี สร้างภาพลักษณ์ที่ดี รุ่นต้นแบบ พร้อมกำชับให้ บก.สตม.จัดอบรมเจ้าหน้าที่ทุกนาย และยกตัวอย่างพฤติกรรมไม่ถึงประสงค์ 6 ข้อบอกให้เจ้าหน้าที่ไปปรับใช้ เผยอาจมีผลต่อการปรับย้ายในครั้งต่อไป
วันนี้ (11 พ.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม “โครงการปรับทัศนคติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนของ สตม.” โดยมีผู้เข้ารับการอบรมเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนในสังกัดของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จำนวน 400 นาย ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม.ได้มอบนโยบายการบริหารราชการประจำปีงบประมาณ 2559
สำหรับโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาระดับชั้นประทวน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งสร้างความเข้าใจและปรับทัศนคติของข้าราชการตำรวจชั้นประทวนในการเป็นข้าราชการตำรวจที่ดี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร ให้ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ในทุกภารกิจ และเพื่อถ่ายทอด แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการจัดฝึกอบรมโครงการปรับทัศนคติฯ รุ่นแรกเพื่อเป็นต้นฉบับ โดยรุ่นต่อไปให้กองบังคับการในสังกัด สตม. จัดฝึกอบรมในพื้นที่ของแต่ละหน่วยให้ครบทุกนาย และให้ ผบก.เป็นผู้ควบคุมด้วยตนเองในส่วนของการปรับทัศนคตินั้นได้กำชับเจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองด้านภาพลักษณ์ เพราะ สตม.ถือว่าเป็นกองบัญชาการสนับสนุน แตกต่างจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และ ศชต. แต่ก็สามารถเป็นที่พึ่งให้แก่พี่น้องประชาชนได้ สามารถสร้างความเชื่อถือและศรัทธาให้แก่ประชาชนได้เช่นเดียวกัน สำหรับไตรมาสแรกเน้นในเรื่องของภาพลักษณ์เป็นหลัก
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนได้เอาพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 ข้อ ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ฝากไว้เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา บอกให้ข้าราชการตำรวจไปปรับใช้ และดูว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดีที่ควรเลิก หลังจากการเปิดเผยพฤติกรรมของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของ พล.ต.อ.สมยศ ทางจเรตำรวจได้ตรวจสอบแล้ว และได้มีการปรับย้ายเจ้าหน้าที่ออกไปส่วนหนึ่งแล้ว และอาจจะมีผลต่อการปรับย้ายครั้งต่อไป อยู่ในขั้นตอนพิจารณา
“ในอดีตผมเคยเป็น ผบก.ตม.ดอนเมือง มีพวกมิจฉาชีพเยอะมากในช่วงที่รับตำแหน่ง น่าจะช่วงปี 2548 หรือประมาณ 10 ปีแล้ว มีการปลอมแปลงตรายาง ปลอมแปลงเอกสาร แต่ในปัจจุบันหายไปเยอะแล้วจากเมื่อก่อน” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับรายงานจากทาง สตม. หรือไม่เกี่ยวกรณีที่ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือผู้การโจ้ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ เดินทางออกนอกประเทศโดยใช้ด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด มีการยืนยันหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่อง วันนี้มาแค่เรื่องของการปรับทัศนคติอย่างเดียว ยังไม่มีการลงรายละเอียดในส่วนของคดี
ถามต่อว่ามีการกำชับด่าน ตม.ต่างๆ หรือไม่ เพื่อให้มีการติดตามตัว พ.อ.คชาชาต พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ได้กำชับทุกด่านไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เริ่มเกิดกรณีดังกล่าวในช่วงแรก ทุกคดีใหญ่ได้สั่งการไปที่ สตม.หมดแล้วให้ระวัง