MGR Online - ตำรวจ ปอศ.จับสินค้านำเข้ามือสองผิดกฎหมาย (ขยะ) ไม่มีเอกสารแสดงทำให้รัฐขาดรายได้กว่า 5 แสนบาท เป็นสินค้าที่ชำรุดไม่สามารถใช้งาน บ่อยครั้งที่ตรวจค้นพบว่ามีการซุกซ่อนสินค้าที่ห้ามนำเข้าในประเทศมากับขยะเหล่านี้
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.ณรงค์เดช กมลบุตร ผกก.2 บก.ปอศ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ร่วมกันจับกุมรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ หมายเลขทะเบียน 70-8482 ชลบุรี ตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 71-99502 ชลบุรี ของบริษัทที่นำเข้า บริษัท ทีแอนด์ที ก๊อปปี้เทค จำกัด เลขที่ 221/27 ซ.เพชรเกษม 67 แขวงและเขตบางแค กรุงเทพมหานคร และนำมาตรวจค้นที่โกดังเก็บสินค้า ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ด้าน พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก.บอกว่า จากการตรวจค้นพบสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสินค้า (ขยะ) ที่ประเทศญี่ปุ่นเขาทิ้ง แต่คนไทยมักจะนำมาขายเป็นสินค้ามือสอง เช่น เครื่องใช้กีฬา เสื้อผ้าเก่า ที่นอน กระเป๋าเดินทาง เก้าอี้ (สภาพชำรุดไม่สามารถใช้งานได้)ได้ร่วมตรวจยึดสินค้ามือสอง ขณะใช้เส้นทางถนนหลวงหมายเลข 7 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่ากว่า 5 แสนบาท ซึ่งไม่มีเอกสารสินค้ามาสำแดง จึงได้นำของกลางมาไว้ที่โกดังเช่าของ ปอศ.ที่ขนส่งคลองหลวง หมู่ 7 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.สมหมายบอกอีกว่า จากการตรวจสอบ พบสินค้าประเภทเซรามิกที่แอบซุกซ่อนมาในตู้เสื้อผ้า และตู้เก็บของ โดยมีเสื้อผ้าห่อหุ้มและปิดบังไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจค้น ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ได้เคยกวดขันและจับกุมเป็นระยะอยู่ตลอดเวลา และพบว่ามีจำนวนผู้กระทำผิดลดลงไปมาก แต่ช่วงนี้สืบทราบว่าจะมีขบวนการดังกล่าว กลับมาลักลอบนำเข้าขยะจากญี่ปุ่นเช่นเดิม จึงได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรในการตรวจจับสินค้าที่นำเข้ามาเป็นจำพวกนี้ และในแต่ครั้งที่จำได้ก็จะมีมูลค่ามหาศาล และในครั้งนี้ก็เช่นกัน รวมแล้วมูลค่ากว่า 500,000 บาท โดยเฉพาะสินค้าประเภทเซรามิกนั้นประเทศไทยเราก็ทำได้ และไม่จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และในบางครั้ง ก็จะมีสินค้าประเภทจำพวกกัมมันตภาพรังสีที่ลักลอบเข้ามาในประเทศ บางครั้งเป็นอันตรายต่อประชาชนจำนวนมาก แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอศ.ก็เฝ้าติดตามจับกุมมาโดยตลอด
พล.ต.ต.สมหมายกล่าวอีกว่า ได้ทำการจับกุมขบวนการดังกล่าวหลายครั้ง ทุกครั้งจะพบของกลางจำพวกเครื่องใช้กีฬา เสื้อผ้าเก่า ที่นอน กระเป๋าเดินทาง เก้าอี้ (สภาพชำรุดไม่สามารถใช้งานได้) หลังจากนั้นกรมศุลกากร ได้ประชุมหารือและเพิ่มกำแพงภาษีจากตู้ละ 50,000 บาท เป็นตู้ละ 100,000 บาท เพื่อป้องกันการนำเข้าขยะจากญี่ปุ่น และจากการตรวจสอบพบจานชามเซรามิกจำนวนมาก ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้า เนื่องจากไทยสามารถผลิตได้เอง มีการซุกซ่อนสินค้าใหม่มาตามลิ้นชักตู้ แต่สำแดงเป็นของมือสองเพื่อให้เสียภาษีในอัตราต่ำลง โดยสินค้าเก่าเหล่านี้หากปล่อยปละละเลยอาจทำให้เกิดปัญหามลพิษในระยะยาว จึงประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันป้องกัน แจ้งข่าวหากขบวนการนี้ยังกระทำความผิดอยู่
