สตช.เร่งพัฒนาโรงพัก ปรับปรุงบริการ สร้างความพึงพอใจสูงสุดของ ปชช.

MGR Online - รอง ผบ.ตร.ติดตามโครงการโรงพักเพื่อประชาชนของ สภ.เมืองนครปฐม พร้อมให้บริการประชาชนในทุกมิติ ย้ำสร้างภาพลักษณ์ที่ดี สร้างความพึงพอใจสูงสุด

วันนี้ (10 พ.ย.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) และพล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตามโครงการโรงพักเพื่อประชาชนของ สภ.เมืองนครปฐม โดยมี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 และ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ให้การต้อนรับและรายงานสรุปผลการดำเนินงาน

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า การปรับปรุงโรงพักในการให้บริการที่ดีแก่ประชาชนเป็นนโยบายสำคัญของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับพี่น้องประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ เริ่มจากสถานที่จอดรถ ห้องน้ำ การให้บริการบนโรงพักในมิติต่างๆ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีและไม่เกี่ยวข้องกับคดี รวมทั้งการอำนวยความยุติธรรมในเบื้องต้น ซึ่งทั้งหมดจะต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง เป็นธรรม และอยู่ภายในกรอบเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะเรื่องที่จอดรถและห้องน้ำนั้นจะต้องมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการด้วย

“จากการตรวจสอบการปรับปรุงของ สภ.เมืองนครปฐม ต้องยอมรับว่าทำได้ดีและเป็นไปตามแนวทางที่ท่าน ผบ.ตร.ได้ให้นโยบายไว้ โดยเฉพาะพื้นที่จอดรถของประชาชนที่มาติดต่อราชการได้กำหนดไว้ให้จอดรถได้มากกว่า 10 คัน และยังสามารถไปจอดในพื้นที่ของข้าราชการตำรวจที่กำหนดไว้ได้ด้วย หากพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับประชาชนไม่เพียงพอ โดยจะมีป้ายบอกไว้อย่างชัดเจน ส่วนการให้บริการแก่ประชาชนก็ทำได้ดี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบคอยให้บริการเป็นการเฉพาะในการพูดคุยและแนะนำให้ความสะดวก ส่วนในเรื่องของคดีก็จะมีหัวหน้าพนักงานสอบสวนคอยให้คำปรึกษาและมอบหมายงานให้กับพนักงานสอบสวนที่มีความชำนาญเป็นเรื่องๆ ไป ส่วนเรื่องการแจ้งเอกสารหายก็สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายใน 5 นาที เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะสร้างความพึงพอใจให้กับพี่น้องประชาชนได้มากขึ้น” พล.ต.อ.พงศพัศกล่าว

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวด้วยว่า ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่ทำหน้าที่สายตรวจป้องกันอาชญากรรมและจราจร เป็นผู้ที่มีโอกาสใกล้ชิดและสัมผัสกับพี่น้องประชาชนโดยตรง จึงต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง เอาใจเขามาใส่ใจเรา เห็นอกเห็นใจ และจะต้องระลึกอยู่เสมอว่าในฐานะที่เป็นตำรวจและเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อะไรควรทำไม่ควรทำ เพื่อช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ข้าราชการตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยรวม ตามนโยบายของ ผบ.ตร.ที่ต้องการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน