ไฟไหม้ตลาดจัดแสดงสินค้าโอทอป ข้างทำเนียบรัฐบาล เสียหายกว่าสองแสนบาท เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
วันนี้ (8 พ.ย.) เมื่อเวลา 04.30 น. พ.ต.ท.อัคนีรักษ์ อัครพิน พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ตลาดริมคลองผดุงกรุงเกษม ถ.ลูกหลวง แขวงและเขตดุสิต จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.ศุภกิจ ต่อบุญ ผกก.สน.ดุสิต พ.ต.ท.สุภัค วงษ์สวัสดิ์ รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่สายตรวจ และฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต
ที่เกิดเหตุภายในตลาดดังกล่าว กำลังจัดงาน “โอทอป ทู เออีซี มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” ซึ่งเป็นการจัดแสดงสินค้าโอทอปจาก 77 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 3 - 25 พ.ย. โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณบูธโชว์สินค้าขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัดและรับจัดกระเช้า ฝั่งทางเข้าใกล้กับสะพานมัฆวานรังสรรค์ เจ้าหน้าที่พบเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณตัวคัตเอาต์ ก่อนลุกลามไปยังชั้นโชว์สินค้า และหลังคาเต็นท์ เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำเพื่อทำการสกัดเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นพบว่า มีสินค้าหลายชนิด พัดลม 3 ตัว หลังคาเต็นท์ และฉากหลังของเวทีถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย รวมเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางเมตร
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ที่กำลังเข้าเวรอยู่ด้านหน้าทางเข้าตลาด เบื้องต้นให้การว่า ช่วงเกิดเหตุขณะที่กำลังเข้าเวรรักษาความปลอดภัยอยู่ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายกับพลุระเบิดดังมาจากด้านในตลาด จึงรีบวิ่งมาดูก็พบเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณบูธจุดเกิดเหตุ จึงรีบประสานรถน้ำดับเพลิงมาทำการดับเพลิงทันที
ด้าน น.ส.วงศ์ศรี เพ็ชรแก้ว อายุ 58 ปี รองผู้จัดการศูนย์โอทอปพุแค จ.สระบุรี กล่าวว่า บริเวณจุดเกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่จัดงาน ให้ทาง จ.สระบุรี เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าโอทอปจากจังหวัดต่าง ๆ โดยนำมาตั้งแสดงโชว์ไว้บริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งรับจัดกระเช้าของขวัญอีกด้วย ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครนอนเฝ้าอยู่ที่บูธ เนื่องจากตลาดปิดตั้งแต่ 20.00 น. ที่ผ่านมา สำหรับสินค้าที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีกระเช้าที่จัดเสร็จแล้วจำนวน 30 กระเช้า ข้าวชนิดต่าง ๆ เช่น ไรซ์เบอรี่ น้่ำหนักรวมประมาณ 250 กิโลกรัม น้ำผึ้ง และน้ำสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ชา ลำไยอบแห้ง ฯลฯ รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 200,000 บาท
ต่อมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล รรท.ผบก.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการตรวจเก็บหลักฐาน
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ บก.น.1 ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมา เพื่อช่วยกันสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าเป็นผู้จัดงาน เจ้าของร้าน รปภ. ทั้งฝั่งด้านในทำเนียบรัฐบาล และด้านนอก รวมแล้วประมาณ 10 ปาก ซึ่งจะต้องสอบปากคำให้เสร็จภายในวันนี้ ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้นั้น จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ในเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่จะเกิดจากความประมาทด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าผลน่าจะเสร็จภายใน 1 สัปดาห์