นายกรัฐมนตรี เปิดงาน OTOP to AEC ที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ดีใจได้มาอีก ชี้แก้ปัญหาประเทศต้องคิดทั้งระบบ ไม่ใช่หาเงินให้แล้วได้หนี้สินกลับมา แต่ชักไม่แน่ใจที่พูดไปผิดหรือเปล่า ยันทำกฎหมายให้เกิดความยุติธรรม รับวันนี้ตนคงไม่เป็นไร แต่วันหน้าไม่รู้ แต่ทุกคนต้องเคารพกฎหมายจะไม่นำพาไปสู่การทุจริต เผยต้องการเลือกตั้งให้ได้ตามระบบที่ดีและถูกต้อง ชี้ไทยใช้กฎหมายเปลืองที่สุดเหตุคนไม่เคารพ ขอช่วยให่กำลังใจ ไม่ขัดแย้ง ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไม่ได้
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่บริเวณตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงาน OTOP to AEC (โอทอป ทู เออีซี) มรดกของแผ่นดินจากท้องถิ่นสู่สากล โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมเอกอัครราชทูตจากประเทศต่าง ๆ ร่วมงาน ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดงานนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมโอทอปตามบูธต่าง ๆ และให้กำลังใจ กับผู้ประกอบการอย่างเป็นกันเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเปิดงานอีกครั้ง และดีใจที่ทุกคนได้นำแนวทางตามกระแสพระราชดำริมาสานต่อ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ทรงมีพระเมตตาต้องการให้สร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อยสามารถต่อสู้กับความยากจนได้ ซึ่งตนมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาเปิดตลาด เพราะได้เห็นรอยยิ้มของผู้ประกอบการ หรือเกษตรกรที่ได้มีที่ค้าขาย ซึ่งจะทำให้มีรายได้ในการเลี้ยงชีพ ทั้งนี้ ก็ต้องมีการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานใด ๆ ขอว่าอย่าลืมประวัติศาสตร์และคุณูปการต่าง ๆ ที่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์และบรรพบุรุษได้ทำไว้ การแก้ปัญหาของประเทศจะต้องคิดทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ไม่ใช่เอาแต่ปลายทาง โดยหาเงินให้ขณะที่กลับมาหนี้สินจำนวนมาก แล้วอย่างนี้จะเข้มแข็งได้อย่างไร ทุกอย่างต้องสอนให้เกิดการเรียนรู้ หลายคนก็หาว่าตนพูดมาก ก็อยากถามว่าสิ่งที่ตนพูดมันผิดหรือเปล่า ซึ่งตนเริ่มไม่แน่ใจเพราะมีคนโต้แย้งคำพูดของตนจำนวนมาก
“วันนี้เราทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ทำกฎหมายให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด กระบวนการยุติธรรมและกฎหมายทำให้คนทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หรือคนธรรมดาจะต้องถือกฎหมายฉบับเดียวกัน รวมทั้งผมด้วยทุกอย่างผมต้องทำตามกฎหมาย เพราะถ้าผมทำผิดกฎหมายก็ต้องติดคุก ถูกดำเนินคดีเช่นกันในยามปกติ แต่วันนี้ผมคงไม่เป็นไร แต่วันข้างหน้าก็ยังไม่รู้ แต่ไม่เป็นไรผมยอมอยู่แล้ว ขอให้วันนี้ทำให้สำเร็จก็พอ ดังนั้น ทุกคนจะต้องเคารพกฎหมาย ซึ่งจะไม่นำไปสู่การทุจริต คอร์รัปชัน มีผลประโยชน์ หรือยอมความกัน ถ้าทุกคนเชื่อมั่นกฎหมายก็จะเดินหน้าอย่างเป็นระบบ วันนี้อย่าไปให้เครดิตกับใครทั้งสิ้นในการออกมาพูดจาต่าง ๆ ขอให้พอได้แล้ว ทุกคนต้องคิดให้ได้ว่าจะฟังแบบนั้นหรือฟังแบบผม ประเทศชาติจะต้องเดินหน้าวันนี้เราต้องเอาความขัดแย้งเก็บไปให้หมด แต่ไม่ใช่ปรองดองโดยไม่มีข้อกฎหมายไม่ได้ ไม่เช่นนั้นกฎหมายก็ไม่มีประโยชน์” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรฯ ต้องทำงานหนักแม้รัฐมนตรีจะเป็นรุ่นพี่ก็ตามแต่ก็ต้องทำงานกันทุกวัน ทั้งเรื่องความเดือดร้อนและความมั่นคง กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม รวมถึงการต่างประเทศ วันนี้ประเทศไทยต้องเดินใหม่ทั้งหมด ที่ผ่านมาไม่อยากพูดว่าใครผิดหรือถูกเพียงแต่อาจหลงลืมหรือไม่ได้คิด เพราะไปให้ความสำคัญกับเรื่องการเมืองมากเกินไป ทุกอย่างเป็นเรื่องการเมืองไปหมด ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไม่ได้ ตนจึงไม่อยากให้บรรยากาศกลับไปเหมือนเดิมอีก วันนี้ขอเวลาให้ตนได้ทำหน้าที่ขอแต่นี้ หลังจากนั้น ถ้าจะเข้าสู่การเลือกตั้งก็เลือกกันไป เลือกอย่างไรให้ได้รัฐบาลที่คิดอย่างตนคิดอย่างน้อยก็คงคิดตรงกับเขาบ้าง เพราะตนก็เป็นคนเลือกตั้งเข้ามาหลายรัฐบาลแล้ว
“วันนี้ผมเข้ามาในลักษณะพิเศษ เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรเลย ผมต้องการให้มีการเลือกตั้งให้ได้ตามระบบที่ดีและถูกต้อง แต่จะต้องไม่มีความขัดแย้ง ไม่ใช่เรื่องของผมถ้าเลือกตั้งไม่ได้ก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมอีกแล้ว ผมไม่สามารถไปบังคับให้คนทุกคนไม่ทะเลาะกัน หรือต้องไปเลือกตั้ง หรือต้องบริหารราชการแผ่นดินโดยใช้กฎหมายทั้งหมด วันนี้ประเทศไทยใช้กฎหมายเปลืองมากที่สุด ของเดิมมีอยู่แล้วแต่ก็ไม่เคารพสร้างของใหม่ขึ้นมา ซึ่งผมคิดว่าก็คงไม่เคารพกันเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเราต้องสอนให้คนคิดให้เป็น ผมอาจต้องพูดเยอะทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องสร้างความเข้าใจให้ได้ในท้องถิ่น เราต้องสร้างให้ประเทศเข้มแข็ง รัฐบาลนี้ทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความร่วมมือของคนในประเทศ ทุกคนจะต้องเป็นผู้นำและไปพร้อม ๆ กัน วันนี้ผมอาจจะเครียดไปบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่เคยโกรธใครนาน ทุกคนที่ทำงานต่างเป็นพี่น้องผมทั้งหมด ผมถือว่าทุกคนคือทีมงานประเทศไทย ที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า วันนี้ขอร้องว่าอย่าฝากทุกอย่างไว้ที่ผมคนเดียว จะมั่นใจได้อย่างไรว่าผมจะทำได้ทุกอย่าง วันนี้ขอเพียงให้กำลังใจไม่ขัดแย้งกับผม มีอะไรขอให้พร้อมที่จะแก้ไข แต่ถ้าแก้ไม่ได้ก็คือไม่ได้” นายกฯ กล่าว
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ใช้พื้นที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล จัดเป็นตลาดค้าขายเพื่อสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าและเป็นการเชื่อมโยงผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งมีการดำเนินงานมาแล้ว 8 ครั้งสำหรับในเดือนพฤศจิกายนนี้ รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานโดยใช้ชื่องานว่า Otop to AEC ... มรดกของแผ่นดินจากท้องถิ่นสู่สากล ระหว่างวันที่ 3 - 25 พฤศจิกายนนี้โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปที่มีศักยภาพส่งออกต่างประเทศผลิตภัณฑ์โอทอประดับ 3 - 5 ดาวทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงการนำเสนอการพัฒนาโครงการโอทอปในระยะต่อไป ซึ่งได้แก่ผลิตภัณฑ์โอทอปที่มีนวัตกรรมโอทอปเยาวชนและหมู่บ้านโอทอป เพื่อการท่องเที่ยวซึ่งไฮไลต์ของการจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วย โอทอปชวนชิมพี่ปูคนถามหา และต้องมาใช้บริการทุกครั้งที่มีการจัดงานโอทอประดับประเทศ รวบรวมสุดยอดอาหารอร่อยของแต่ละภูมิภาคที่มียอดความนิยมสูงสุดมาเสนอให้ทุกคนได้ลิ้มลอง นอกจากนี้ จะมีการจัดแสดงโอทอปสู่เออีซี โดยนำผลิตภัณฑ์ที่ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิปัญญาไทยที่ก้าวไกลสู่สากลได้รับความนิยมจากชาวโลกมาให้คนไทยได้ร่วมภาคภูมิใจและเพื่อเป็นการตอบโจทย์รัฐบาลที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์โอทอป