“ศานิตย์” มอบหมายให้ทุก สน. ทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวคนเสื้อแดง ห้ามละเมิดกฎหมาย พร้อมป้องกันปัญหาอาชญกรรมทุกพื้นที่เพื่อความเรียบร้อยของบ้านเมือง ส่วนกรณีคนร้ายฆ่าปาดคอพริตตี้สาวถูกจับที่กัมพูชาเร่งรวบรวมหลักฐานให้อัยการประสานส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยมาตรการการดูแลอาชญากรรม ว่า ตลอดเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมาเดินทางลงพื้นที่ตรวจโรงพัก ตามนโยบายได้มอบให้ผู้กำกับการโรงพักทั้งหมดเป็นซีอีโอบริหารงาน โดยตนจะสอบถามปัญหาในสถานีตำรวจมีอะไรบ้าง แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร การจับกุมคดีต่าง ๆ อาวุธปืนหรือยาเสพติด ก็เป็นมาตรการส่วนหนึ่ง เพื่อให้เป้าหมายหรือนโยบายให้บ้านเมืองสงบ บ้านเมืองเกิดความปลอดภัย และอยากให้ทุกคนรักสามัคคีกัน โดยจะใช้มาตรฐานทางกฎหมายต่อคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างเข้มข้น สามารถป้องกันไม่ให้อาชญากรรมเกิดขึ้น
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า การดูแลเหตุชุมนมกลุ่ม นปช. นัดชุมนุมวันที่ 1 พ.ย. นี้ คนใส่เสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ใช้มาตรการเชิงป้องกัน กำหนดข้อสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร มีการประชุมหารือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม กับผู้บังคับการ และผู้กำกับทุกท้องที่ในพื้นที่ บช.น. เน้นเรื่องการทำความเข้าใจทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือผู้เกี่ยวข้อง ผู้สนับสนุน ในระดับล่าง คนไทยพูดกันเข้าใจอย่างมีเหตุมีผล คงจะต้องเชื่อฟังกัน ทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้บ้านเมืองสงบ เรื่องเกี่ยวกับการแสดงออกเป็นสิทธิแต่ก็อย่าไปละเมิดกฎหมาย ผู้ใหญ่ทางรัฐบาลยืนยันว่าอยากให้บ้านเมืองสงบ ถ้าท่านทำโดยไม่ฝ่าฝืนกฎหมายก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าใครละเมิดกฎหมายทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบ เราก็มีหน้าที่ดำเนินการดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจกัมพูชาสามารถจับกุมตัวนายสารัด เรด หรือ ดำ ลูกจ้างปอกมะพร้าวชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอพริ้ตตี้สาว เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมาได้ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นหลังเกิดเหตุสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นผู้ต้องหาคนดังกล่าว สกัดจับทุกช่องทาง การทำงานผู้ต้องหาสามารถหลบหนีได้ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน จึงตรวจสอบว่ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ซึ่งประเทศกัมพูชามี ก็ดำเนินการทางช่องทางปกติ ตำรวจจะเร่งรวบรวมหลักฐานทำสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการศาลจังหวัดมีนบุรี ส่งเรื่องต่อให้อธิบดีฝ่ายต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อประสานงานไปเพื่อขอตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป