ASTVผู้จัดการ - ประชุมร่วมชุดคลี่คลายคดีคนร้ายฆ่าปาดคอพริตตี้สาวในพื้นที่ สน.คันนายาว ตั้งรางวัลนำจับคนร้ายสามหมื่นบาท ประสานทุกหน่วยสกัดจับ
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่าปาดคอนางสาวไอรดา นุกูล หรือ โมนา วัย 25 ปี พริตตี้อีเวนต์ แล้วนำร่างไปหมกไว้ในห้องเก็บของ บ้านพักซอยคู้บอน 6 แขวงและเขตคันนายาว
วันนี้ (22 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.คันนายาว พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.9 เดินทางมาประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.อัครพล สว่างวงศ์ รอง ผบก.น.2 รรท.ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.พีรวัส ประสาทกลาง รอง ผกก.สส.สน.คันนายาว และชุดสืบสวน สน.คันนายาว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าปาดคอพริตตี้สาว น.ส.ไอรดา นุกูล หรือ โมนา อายุ 25 ปี
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับทุกกองบังคับการ สถานีตำรวจทั้ง 88 สน. รวมทั้งกองบังคับการสืบสวน ได้สั่งการให้ลงพื้นที่หาข่าวติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาให้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งได้สั่งการให้วางมาตรการอย่าให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญอย่างนี้ เพราะสร้างความสะเทือนใจต่อพี่น้องประชาชน พร้อมได้โทร.ประสานด้วยตัวเองต่อหัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วยโดยตรง หากว่าระดับผู้บัญชาการลงไปสั่งการอำนวยการและควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเอง ผมเชื่อว่า จะมีความเข้มข้นในการปฏิบัติและจะมีข่าวดีเกี่ยวกับคดีสามารถจบคดีนี้ได้โดยเร็วที่สุด
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สกัดกั้นเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไปทุกวิธีทางแล้ว ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดมีนบุรี เพื่อขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ ในเบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีคนเดียว โดยฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนหากพบเห็นชายต้องสงสัยรายนี้สามารถแจ้งเบาะแสได้โดยตรงกับ พ.ต.อ.อัครพล สว่างวงศ์ รอง ผบก.น.2 รรท.ผกก.สน.คันนายาว ที่เบอร์โทร. 087-133-3999 ทางเจ้าหน้าที่จะมอบเงินรางวัลสินน้ำใจจำนวน 30,000 บาท หากมีเบาะแสนำไปสู่การจับกุมติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานมากพอสมควร โดยล่าสุดได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรี เพื่ออนุมัติออกหมายจับ นายสารัด เรด อายุ 21 ปี สัญชาติกัมพูชา ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และลักทรัพย์ โดยคาดว่าศาลจะอนุมัติหมายจับได้ภายในวันนี้
ขณะที่ พ.ต.อ.อัครพล เปิดเผยความคืบหน้าในคดี ว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำไปเสร็จสิ้นแล้วจำนวน 3 ปาก (แม่ผู้ต้องสงสัย พี่ชายผู้ต้องสงสัย และพยานฝั่งตรงข้ามบ้านพักผู้เสียชีวิต) และได้ติดตามของกลางซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 ของผู้ตายที่หายไปได้แล้ว โดยผู้ต้องสงสัยชาวกัมพูชาได้นำโทรศัพท์ไปขายให้กับเพื่อนชาวกัมพูชาในย่านนิมิตรใหม่ ในราคา 1,500 บาท ทั้งนี้ เพื่อนชาวกัมพูชาที่รับซื้อโทรศัพท์ไว้ยังระบุอีกว่าบริเวณใบหน้าของผู้ต้องสงสัยมีบาดแผลลักษณะเหมือนรอยเล็บข่วน
ซึ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บดีเอ็นเอของแม่และญาติผู้ต้องหาไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากจุดเกิดเหตุ เพื่อนำไปยืนยันและใช้ในการขอศาลอนุมัติหมายจับ นอกจากนี้ ได้ส่งฝ่ายสืบสวนให้ไปประสานงานในระดับ บช.น. บก. และ สน. รวมทั้งประสานไปที่ ตม. ทั้งด่าน ตม. ทาง จ.สระแก้ว และ จ.จันทบุรี พร้อมส่งรูปผู้ต้องสงสัยไปให้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ต.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยยังคงกบดานอยู่ในบ้านกลุ่มเพื่อนในพื้นที่
