โฆษก ตร. เผย คดีระเบิดกลางกรุงคืบหน้า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาดส่งสำนวน “อาเดม - ยูซูฟู” ให้อัยการภายใน ต.ค. ขณะ ผบ.ตร. เรียกประชุมทีมสืบสวนติดตามความคืบหน้าพรุ่งนี้ พร้อมพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหา เร่งประสานตุรกี ล่าตัว “อิซาน” รวมถึง “วรรณา” พร้อมสามี
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา (สบ10) และโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีคนร้ายลอบวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ส่งเอกสารการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อเหตุวางระเบิดมาให้พนักงานสอบสวนบางส่วนแล้ว ซึ่งกำลังวิเคราะห์อยู่ รวมถึงจำนวนเงินทั้งหมดด้วย โดยเบื้องต้นทราบว่าส่วนใหญ่เป็นเส้นทางการเงินที่เกี่ยวกับต่างประเทศ แต่ไม่สามารถวิเคราะห์อย่างละเอียดว่าจะเชื่อมโยงกับคดีระเบิดโดยตรงหรือไม่ แต่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในขบวนการระเบิดที่ได้ออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีการโอนเงินกันในระหว่างประเทศใด เนื่องจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลตรงนี้ได้ รายละเอียดส่วนนี้ยังอยู่ในการสอบสวนและไม่สามารถเปิดเผยได้ รวมถึงบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องนอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 17 คนนั้น ที่ยังอยู่ในสำนวนคดีด้วย
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการติดตามตัวนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรือ อิซาน เบื้องต้นมีรายงานมาว่า นายอิซาน หลบหนีออกจากประเทศไทยไปยังประเทศบังกลาเทศ และหลบหนีต่อไปที่ประเทศอินเดีย โดยมีปลายทางมุ่งสู่ประเทศตุรกี ส่วนการติดตามตัว น.ส.วรรณา สวนสัน พร้อมด้วย นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ผู้ที่เป็นสามีนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อเรียนเชิญเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยเข้ามาหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย การตรวจสอบหนังสือเดินทางว่ามีการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ และการติดตามตัวผู้ต้องหา รวมถึงการติดตามตัวนายอิซาน ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เข้าใจว่าอยู่ในช่วงที่ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการประสานงานระหว่างกัน จึงยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะหารือได้ในวันใด รวมถึงการติดตามตัวนายอ๊อด พยุงวงษ์ หรือ ยงยุทธ พบแก้ว และชายคล้ายแขกขาวที่แอบเข้าศาลทหารกรุงเทพ เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานกลับมาเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ต.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าและการสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องผู้ต้องหา
“ในส่วนของสำนวนคดีระเบิดมีความคืบหน้าเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่สามารถดำเนินคดีกับนายอาเดม คาราดัก หรือ นายบิลาล เติร์ก มูฮัมหมัด และนายไมไรลี ยูซูฟู ได้ โดยคำรับสารภาพ และการทำแผนประกอบ พยานในที่เกิดเหตุ และหลักฐานในที่เกิดเหตุมีความสอดคล้องกัน โดยคาดว่าจะส่งสำนวนให้อัยการไม่เกินสิ้นเดือน ต.ค. นี้ ส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายเพิ่มเติมด้วยหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้” โฆษก ตร.กล่าว