ผบ.ตร. เผยปล่อยตัวชายต้องสงสัยชาวตุรกีถูกควบคุมตัวที่ ตม.หนองคาย แล้ว หลังผลสอบไม่เกี่ยวข้องกับคดีระเบิด ย้ำไม่เปลี่ยนทีมสืบสวน เพียงให้ “ศรีวราห์” คุมคดีแทน เชื่อ “อ๊อด” เคยพบเจอพูดคุย “อาเดม - ยูซุฟู” แต่ตอนนี้ยังหาตัวไม่ได้ เพราะมีประสบการณ์ซ่อนตัว มั่นใจสัปดาห์หน้าสรุปสำนวน ย้ำมูลเหตุไม่พอใจในนโยบายปราบปรามค้ามนุษย์
วันนี้( 9 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย ได้ควบคุมตัวชายชาวตุรกีที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดไว้นั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแต่อย่างใด จึงได้มีการปล่อยตัวไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เราต้องมีการตรวจสอบหากพบผู้ต้องสงสัยจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง หรือมีรูปลักษณะท่าทางที่ใกล้เคียงกับผู้ต้องสงสัยก็ต้องควบคุมตัวตรวจสอบไว้ก่อน แต่หากตรวจแล้วพบว่าไม่เกี่ยวข้องก็ต้องมีการปล่อยตัวไป
ส่วนการติดตามตัว นายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ นายยงยุทธ พบแก้ว นั้น ยังคงดำเนินการติดตามตัว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ไปดำเนินการแล้ว ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน หากมีความคืบหน้าก็จะมีการแจ้งให้ทราบ เพราะตนก็อยากได้ตัวนายอ๊อดเช่นกัน ข้อมูลของนายอ๊อดนั้น ตนเชื่อว่า นายอ๊อดเองก็มีประสบการณ์การซ่อนตัว อาจจะไม่ได้มีคนช่วยเหลือ เพราะนายอ๊อดเคยถูกจับกุมมาก่อน จึงมีประสบการณ์ในการซ่อนตัวด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตามตัวนายซูแบร์ หรือชายเสื้อฟ้า มีข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ว่าไปหลบหนีอยู่ที่ใด พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วว่ากำลังติดตามตัวผู้ต้องหาที่เป็นตัวละครสำคัญทั้งหมด ทั้งนายซูแบร์ ชายเสื้อฟ้า นายอ๊อด หรือแม้แต่นายอาบูดูซาตาร์ อะบูดูเระมาน หรือ อิซาน ด้วย เพราะเป็นคนที่ต้องการตัวทั้งหมด
เมื่อถามว่า จากการสอบปากคำนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด หรือ นายอาเดม คาราดัก และ นายไมไรลี ยูซูฟู มีความเชื่อมโยงกับนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ นายยงยุทธ พบแก้ว หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า น่าจะมีความเชื่อมโยงกัน น่าจะเกี่ยวข้องกันในส่วนใดส่วนหนึ่งของขบวนการ จะสนับสนุนตรงไหนนั้นตนยังไม่ทราบ คาดว่า น่าจะมีการพบเจอ หรือพุดคุยกับผู้ต้องหาทั้งสองคนด้วย ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีการสรุปพยานหลักฐานทั้งหมด รวมถึงสำนวนคดีแน่นอน ตนมั่นใจว่า หลักฐานทั้งหมดจะสามารถส่งฟ้องนายบิลาเติร์ก และ นายยูซูฟู ได้ ทั้งนี้ จะไม่มีการเปลี่ยนชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน เพราะว่าดีอยู่แล้ว จะมีแค่เปลี่ยนให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ มารับผิดชอบแทนตน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตัวการใหญ่ยังคงเป็นนายอิซาน นอกจากเจ้าหน้าที่จะได้ตัวนายอิซาน แล้วนายอิซานจะซัดทอดไปถึงใครก็ว่ากันอีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า สำหรับแรงจูงใจของการก่อเหตุยังคงเป็นเรื่องของความไม่พอใจในนโยบายปราบปรามการค้ามนุษย์ของทางการไทย ตนไม่เคยโยงไปเรื่องอื่น ส่วนการประสานการตรวจสอบว่านายอิซานได้มีการเดินทางเข้าประเทศตุรกีไปจริงหรือไม่นั้น ในวันนี้หนังสือจะไปถึงกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ซึ่ง กต. ก็ต้องไปประสานกับทางสถานทูตตุรกี ซึ่งต้องใช้เวลา ขณะนี้กำลังประสานงานกันอยู่
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ประเทศไทย กับประเทศตุรกีนั้น ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากพบว่านายอิซานหนีเข้าไปยังประเทศตุรกีจริง เป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลที่จะประสานงานกับประเทศไทย จะมีเพียงการแจ้งเบาะแสว่าอยู่ที่ไหน ส่วนการดำเนินการเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่ามีการหลบหนีเข้าไปยังประเทศตุรกีจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่ก็เข้าใจว่าการเงินเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ
