บช.ปส.แถลงจับกุมแก๊งค้าเฮโรอีนจากภาคเหนือไปภาคใต้ ขณะลำเลียงเข้าสู่ จ.นราธิวาส ยึดของกลางหนัก 12 กก.มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท จับผู้ต้องหาได้ 3 ราย
วันนี้ (12 ต.ค.) เวลา 14.30 น. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถ.วิภาวดีรังสิต พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ผบก.ปส.4 บช.ปส. พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ ขันธวิจารณ์ ผบก.ขส.บช.ปส. ร่วมแถลงผลจับกุม นายอดุลย์ หรือบังวี เสริมศาสน์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118/2 หมู่ที่ 1 ต.แม่ดง อ.แว้ง จ.นราธิวาส, นายสุกีลฮารง หรืออารง หะมะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 2 ต.แม่ดง อ.แว้ง จ.นราธิวาส และนายอัสมา หรือซาฮา สามะ อายุ 30 ปี พื้นที่ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมของกลางเฮโรอีนจำนวน 31 ถุง น้ำหนักประมาณ 12.080 กิโลกรัม อาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติกขนาด .45 มม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนขนาด .45 จำนวน 50 นัด รถยนต์ตู้สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮย 9468 กทม. รถยนต์จำนวน 5 คัน รถสิบล้อ 3 คัน รถไถ 1 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน รวมทรัพย์สินอื่นๆ จำนวนมากรวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ด่านตรวจควนมีด ต.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม
พล.ต.ท.เรวัชกล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดจับกุมสืบทราบว่านายอดุลย์และนายสุกีลฮารงมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากทางเหนือมาส่งภาคใต้และต่อไปยังต่างประเทศ โดยใช้วิธีนำเที่ยวทัวร์ทางภาคเหนือก่อนซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถตู้ของกลางสีบรอนซ์เงิน
พล.ต.ท.เรวัชกล่าวอีกว่า ช่วงประมาณวันที่ 9-10 ต.ค. ผู้ต้องหาทั้งสองเดินทางกลับมาที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งวันที่ 10 ต.ค. เวลาประมาณ 17.30 น.ได้พบรถคันดังกล่าวขับมาจาก อ.นาหม่อน จ.สงขลา มุ่งหน้าไปยัง จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้นพบของกลางจำนวนมาก โดยมีนายสุกลีฮารงเป็นผู้ขับขี่ และนายอดุลย์คนนั่ง พบเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ที่ช่องลับภายในคอนโซลวางของด้านหลังคนขับ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างมาจากนายอับดุลรอพี อุแม ให้นำยาเสพติดไปส่งที่ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระหว่างนั้นนายอับดุลรอพีได้โทรศัพท์มาหานายอดุลย์แจ้งว่าจะให้นายอัสมาเดินทางมารับยาเสพติด โดยนัดหมายส่งมอบกันที่โรงจอดรถของนายอับดุลรอพี ตรงข้ามบ้านพักเลขที่ 47/18 ม.3 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จึงเดินทางไปยังจุดนัดหมายพร้อมกับนายอดุลย์
“จากนั้นนายอัสมาได้เดินมาที่ด้านข้างรถยนต์รับกระเป๋าซึ่งภายในบรรจุยาเสพติดของกลาง โดยมีนายอับดุลรอพีนั่งสังเกตอยู่ที่บ้านพักดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมนายอัสมาไว้ได้ ทำให้นายอับดุลรอพีอาศัยจังหวะวิ่งหลบหนีไปทางด้านหลังของบ้านพร้อมกับกระโดดลงแม่น้ำสุไหงโก-ลก หนีหายไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนและทำการขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย