ASTVผู้จัดการ - โฆษกตำรวจ เผย คดีชิงทรัพย์ลูกสาวอดีตรมช.ศธ. เก็บหลักฐานได้มาก ยันปูพรมตามล่าผู้ต้องหาทุกพื้นที่ พร้อมกับได้เบาะแสใกล้เคียงแล้ว 1 ราย เชื่อ 95 เปอร์เซ็นต์คนร้ายเป็นคนไทย
วันนี้ (6 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทน ที่ปรึกษา (สบ10) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีคนร้ายก่อเหตุทำร้ายร่างกายก่อนชิงทรัพย์ น.ส.สฤตาพร สันติเมทนีดล อายุ 30 ปี นักวิเคราะห์การเงิน ธนาคารซูมิโตโม ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของ นายสฤต สันติเมทนีดล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่า คดีนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของการติดตามตัวผู้ต้องหา แต่คืบหน้าในเรื่องของพยานหลักฐานที่เก็บได้เยอะ และเพิ่มมากขึ้น ยืนยันว่า คนที่ให้รูปไปเป็นคนร้ายและได้ออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงต้องรีบจับกุมให้ได้ และคิดว่าคงไม่นาน ส่วนผู้เสียหายที่ติดใจว่าทำไมการทำงานของตำรวจถึงล่าช้านั้น ขณะนี้ตำรวจปูพรมแล้ว และมีการลงทุกพื้นที่ ซึ่งได้รูปจากกล้องวงจรปิดรวมถึงเบาะแสเพิ่มเติม ยังต้องการเบาะแสจากประชาชน ถ้ารู้ว่าคน ๆ นั้น เป็นใคร หรืออยู่ที่ไหนกรุณาแจ้งมาที่ 191 หรือ 1599
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สน.บางรัก พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชุมพร กาญจนรัตน์ รอง ผบก.น.6 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีนี้ โดยมี พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางรัก และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.บางรัก ร่วมประชุม โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
พล.ต.ต.ศานิตย์ เปิดเผยหลังประชุมว่า หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพออกไปแล้ว ก็มีพลเมืองดีเข้าแจ้งเบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 5 ราย ซึ่งมีอยู่ 1 รายที่ให้เบาะแสค่อนข้างใกล้เคียงกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้แต่ละกองบังคับการในพื้นที่นครบาลช่วยกันประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเบาะแสของคนร้าย สำหรับในส่วนของคดีก็มีความคืบหน้าไปพอสมควร แต่ในรายละเอียดปีกย่อยนั้น ตนไม่ขอแจง เพราะว่าทุกอย่างต้องพิสูจน์ทราบ อยู่ในขั้นตอนต้องสืบสวนสอบสวนจนสิ้นกระแสความ อีกทั้งยังได้ประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านพิสูจน์หลักฐานเพื่อเปรียบเทียบภาพของคนร้ายอีกด้วย ซึ่งตนคาดว่าน่าจะมีข่าวดีในเรื่องของการจับคนร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า 95 เปอร์เซ็นต์เป็นคนไทย และทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อความเดือดร้อนของประชาชน โดยในวันนี้ตนจะเดินทางไปเยี่ยมพร้อมกับรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับคดี และให้กำลังใจ น.ส.สฤตาพร สันติเมทนีดล อายุ 30 ปี ผู้เสียหายที่บ้านพักเป็นการส่วนตัว
พล.ต.ต.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำไปทุก สน. ในพื้นที่นครบาล ในเรื่องของการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รวมถึงการแก้ไขปัญหาทางด้านการจราจรในแต่ละ บก.น. ให้ ผกก. แต่ละพื้นที่ติดป้ายร้องเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด พร้อมทั้งเขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ ติดไว้ที่ป้อมจราจรทุกแยกและพื้นที่ เพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาด้านการจราจรในลักษณะที่ถนนเป็นเส้นตรงโดยไม่มีสัญญาณไฟจราจร แต่เพราะเหตุใดถึงประสบปัญหาด้านการจราจรที่ติดขัด รวมทั้งทางร่วมทางแยกต่าง ๆ ของแต่ละพื้นที่
พล.ต.ต.ศานิตย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีของใบบันทึกรายการตรวจพื้นที่ สน.บางรัก เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อความซึ่งเป็นประเด็นในเรื่องห้ามให้ นรต. รุ่น 53 เป็นหัวหน้าจุดตรวจร่วมด้านความมั่นคง หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมานั้นได้เรียกนรต.รุ่น 53 เข้าร่วมประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่ออธิบายให้แน่ชัดถึงข้อความของใบที่ลงบันทึกผลการตรวจ ซึ่งอาจจะไม่ครบถ้วน รวมทั้งอาจจะเกิดข้อขัดแย้ง เพราะข้อความที่ลงไปนั้นไม่ละเอียด โดยบทสรุปนั้นให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตรเป็นหัวหน้าชุดตั้งจุดตรวจ เพื่อประโยชน์สุขของที่น้องประชาชน