xs
xsm
sm
md
lg

ตร.บางโพงพางยิงตัวตาย ขณะเพื่อนมาตามไปทำงานก่อนเกษียณ 30 ก.ย. คาดเกิดจากความเครียด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTV ผู้จัดการ - ตำรวจบางโพงพางใกล้เกษียณยิงตัวเองตายด้วยอาวุธปืนขนาด .38 หลังเพื่อนมาตามไปทำงาน คาดเกิดจากความเครียด-โรครุมเร้า อาการทรุด ขาดงานบ่อย


วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ร.ต.ท.นพภา ทองบ่อ พงส.สน.ลุมพินี รับแจ้งมีเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 116/6 ซ.พระเจน ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผกก.ป.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.อภิชาติ ทองจันดี รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไมัสูง 2 ชั้น อยู่บนเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ที่บริเวณห้องรับแขกชั้นล่างเจ้าหน้าที่พบศพ ร.ต.ท.ณัฐกรณ์ สายคำศร อายุ 60 ปี ตำแหน่งรอง สว.สส.สน.บางโพงพาง เสียชีวิตอยู่ในท่านั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้พับ สวมเสื้อกล้ามสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีกากี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย ที่จมูกมีเลือดออก ห่างไปไม่ไกลพบอาวุธปืนลูกโม่สีดำ ขนาด .38 ตกอยู่ นอกจากนี้ที่บริเวณท่อแอร์ยังพบหัวกระสุนขนาด .38 ฝังอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐานก่อนนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.จุฬาฯ

จากการสอบสวนนางสมศรี สายคำศร อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ตายทราบว่า ผู้ตายรับราชการเป็นตำรวจอยู่ สน.บางโพงพาง และจะเกษียนอายุราชการอีก 6 วันข้างหน้านี้ ปกติผู้ตายพักอาศัยที่บ้านซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่มีทั้งลูกชาย ลูกสาว ลูกสะใภ้และหลาน ก่อนเกิดเหตุมีเพียงตนและหลานสาวอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันมีเพื่อนตำรวจมาตามผู้ตายไปทำงานแต่เจ้าตัวบ่นว่าไปทำงานไม่ไหวเนื่องจากมีความเครียด แต่เพื่อนตำรวจที่ตามมาจะให้ไปให้ได้ ผู้ตายจึงขอเข้าไปเปลี่ยนกางเกงขายาวในห้องที่เกิดเหตุพักที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ตนและหลานสาวจึงรีบเข้าไปดูพบว่าผู้ตายได้ยิงตัวตายไปแล้วก่อนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ

ด้าน น.ส.พิสชา ไทยศรีสุข อายุ 15 ปี ลูกสาวบุญธรรมของ ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่ ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์จะเสียชีวิต มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางโพงพางจำนวน 3 นาย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนจาก สน.ลุมพินี 1 นายมาตามหา ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ แต่เวลานั้น ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ไม่อยู่ ตนจึงโทร.ตามบอกว่าเพื่อนมาหา เมื่อ ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์มาก็ได้ออกไปยืนคุยกันบริเวณหน้าบ้าน โดยจากการพูดคุยเพื่อนตำรวจได้มีการต่อว่าทำไมไม่ไปทำงาน พูดจาในเชิงกดดัน ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ได้บอกเพื่อนตำรวจว่าไม่ค่อยสบาย และจะเข้าไปเปลี่ยนกางเกงเพื่อไปทำงาน แต่ทางเพื่อนตำรวจไม่ยอม โดยบอกให้ “ไปเดี๋ยวนี้” จากนั้น ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ได้เดินเข้าไปในห้อง เวลาไม่นานตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงรีบมาดูจึงพบว่า ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ได้เสียชีวิตแล้ว จึงรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านบอกเพื่อนตำรวจว่าพ่อยิงตัวตาย ให้ช่วยโทร.แจ้งรถพยาบาลและตำรวจ แต่ตำรวจทั้ง 4 นายไม่สนใจและได้ขี่จักรยานยนต์ไปอย่างไม่มีอาการตื่นตระหนก

น.ส.พิสชากล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวนของ สน.ลุมพินี มาหา ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ 3-4 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นายที่มาจาก สน.บางโพงนั้นเพิ่งเคยมาครั้งนี้เป็นครั้งแรก อีกทั้งเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของ ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ แต่กลับโดนเรียกตัวให้ไปทำงานที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยสั่งว่าไม่ให้เอารถของตัวเองไปแต่ต้องนั่งรถตู้ ทำให้ตนเป็นห่วงเพราะ ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ ต้องเดินไปขึ้นรถที่หน้าปากซอยซึ่งมีระยะทางค่อนข้างไกลซึ่ง ร.ต.ท.ณัฏฐากรณ์ เดินได้เล็กน้อยก็มีอาการเหนื่อยแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ภาดลเปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ รวมทั้งมีน้ำหนักตัวมาก ระยะหลังผู้ตายเดินไม่ค่อยไหว เดินขึ้นบันไดไม่ได้ และต้องมีคนคอยประคองจึงอาจเป็นสาเหตุของการฆ่าตัวตาย เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายมีความเครียดรุมเร้าจนเป็นเหตุให้ฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการสอบสวนญาติผู้ตาย เพื่อนร่วมงาน รวมทั้งตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวและรอผลจากทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น