ผบช.น.เผยยังไม่ทราบ “อาเดม” รับสารภาพเป็นชายเสื้อเหลืองวางระเบิดศาลพระพรหม เพราะ ตร.ยังไม่ได้เข้าไปสอบ ที่ผ่านมาเป็นฝ่ายทหารดำเนินการ แต่หากสารภาพจริงก็ยังไม่มีผลอะไร เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบวัตถุพยานและหลักฐานให้ชัดเจนก่อนจึงจะเชื่อตามคำรับสารภาพ
วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวถึงกรณีนายอาเดม คาราดัก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ให้การรับสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลืองคนที่นำระเบิดไปวางที่ศาลท้าวมหาพรหมย่านราชประสงค์ว่า ขณะนี้ได้จัดชุดสืบสวนส่งเข้าไปสอบสวนที่ มทบ.11 แล้ว เนื่องจากกองทัพเพิ่งมีคำสั่งให้เข้าไปทำบันทึกการสอบปากคำ ส่วนนายอาเดมให้การว่าคือชายเสื้อเหลืองที่ก่อเหตุวางระเบิดนั้นยังไม่ทราบเพราะว่ายังไม่ได้เข้าไปสอบสวน และไม่เคยเข้าไปพูดคุยกับนายอาเดม ที่ผ่านมาเป็นฝ่ายทางกองทัพดำเนินการ
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า นายอาเดมเคยมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนครั้งหนึ่งแล้วตอนที่เจ้าหน้าที่ทหารส่งตัวมาให้สอบสวน การเข้าไปพบผู้ต้องหาครั้งนี้จะเป็นการให้ชุดสืบสวนเข้าไปสืบสวนซึ่งยังไม่ใช่ขั้นตอนของพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายอาเดมครั้งแรกนั้นมีความชัดเจนในเรื่องของวัตถุที่ใช้ทำระเบิดโดยยอมรับว่าเป็นเจ้าของวัตถุระเบิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีพยานหลักฐานยืนยันได้หรือไม่ว่านายอาเดมคือชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิด พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ต้องดูก่อนเพราะความผิดมีโทษจำคุกเกิน 5 ปี ต้องมีพยานมานำสืบจนสิ้นสงสัยจึงจะลงโทษได้ ถ้าผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำเอง ถ้าหลักฐานอื่นไม่มีมันก็ใช้ไม่ได้ แม้ว่าเขายอมรับว่าเป็นชายเสื้อเหลือง ตำรวจก็ยังไม่เชื่อจนกว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน ขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่านายอาเดมรับสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลืองจริงหรือไม่ ต้องให้ชุดสืบสวนเข้าไปคุยและซักถามก่อน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้านายอาเดมปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุวางระเบิดที่ศาลพระพรหม ชุดสืบสวนจะมีพยานหลักฐานเอาผิดได้หรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า คำรับสารภาพของเขาแทบไม่มีผลต่อทางศาล การรับสารภาพหรือปฏิเสธก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน แม้ว่าเขาปฏิเสธ ถ้าหลักฐานมันใช่ก็คือใช่ ขณะนี้สำนวนมีความคืบหน้าไป 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว พนักงานสอบสวนต้องทำให้ละเอียดรอบคอบ ส่วนที่ขาดก็จะมีเรื่องการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมมากกว่า 1 รายซึ่งเกี่ยวข้องเป็นผู้ร่วมขบวนการ ส่วนพยานที่สอบปากคำไปแล้วถ้ามีการพาดพิงหรือสอบปากคำยังไม่สมบูรณ์ก็ต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม