ASTV ผู้จัดการ - ผบ.ตร.ไม่ยืนยัน “อาเดม” เป็นชายเสื้อเหลืองวางบึ้มราชประสงค์ตามคำสารภาพ ย้ำต้องมีพยานหลักฐานมัดแน่นจนดิ้นไม่หลุด ชี้จากการสอบปากคำแต่ละวันให้การไม่ตรงกัน แต่เชื่อตำรวจมีหลักฐานมัดตัว
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวระบุว่านายอาเดม คาราดัก ผู้ต้องหาในคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ที่ถูกจับกุมได้ที่พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ยอมสารภาพว่าตนคือชายเสื้อเหลืองผู้วางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ยังไม่อยากให้สรุปว่ากระแสข่าวดังกล่าวเป็นความจริงจนกว่าจะมีพยานหลักฐานที่สอดคล้อง เนื่องจากตั้งแต่จับกุมตัวนายอาเดมเมื่อตำรวจสอบปากคำแต่ละครั้ง นายอาเดมให้การไม่ตรงกัน จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานที่แน่ชัดจนสามารถมัดตัวว่านายอาเดมคือชายเสื้อเหลืองจริง ตนจึงจะสามารถออกมาพูดยืนยันได้ชัดเจน
“นับตั้งแต่ควบคุมตัวนายอาเดม ชุดสืบสวนสอบสวนมีความมั่นใจว่านายอาเดมน่าจะเป็นคนวางระเบิด แต่ด้วยรูปร่างจากกล้องซีซีทีวี ไม่ว่าจะผมยาว ใส่แว่นหนา หรือกิริยาท่าทาง ทำให้ไม่สามารถสรุปได้จนกว่าจะมีหลักฐานต่างๆ ในหลายๆ แบบมายันว่าเป็นนายอาเดมจริง จนนายอาเดมไม่สามารถปฏิเสธได้ ณ วันนี้ ถ้าจะให้สรุปว่านายอาเดมคือชายเสื้อเหลืองก็ยังไม่กล้าที่จะสรุป เพราะจากการสอบปากคำนายอาเดมวันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอย่าง หากผมพูดไปแล้วสื่อมวลชนนำไปเสนอตามที่พูด แล้วหากนายอาเดมเปลี่ยนคำให้การอีกก็จะเสียหายทั้งทางผมและทางสื่อมวลชนที่นำเสนอ” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอาเดมให้การรับสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลืองตามที่มีกระแสข่าวจริงหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตราบใดที่พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถดำเนินการหรือทำให้กระบวนการทุกอย่างสมบูรณ์ สมมติว่านายอาเดมให้การว่าเป็นชายเสื้อเหลืองจริง เขาก็ต้องนำชี้ว่าที่เป็นชายเสื้อนั้น เขาเดินมาจากไหน ไปจุดไหน และขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปจุดไหน และทำอะไร หากนายอาเดมเพียงแต่พูด ไม่ใช่คนที่ลงมือทำ เขาไปไม่ได้ ทุกอย่างมันไม่สอดคล้องกัน เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสอบปากคำหลายครั้ง ดังนั้น ก่อนที่จะมาสรุปว่านายอาเดมใช่หรือไม่ใช่ชายเสื้อเหลืองต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนเหล่านี้มาก่อน ตนจึงไม่สามารถพูดยืนยันได้จนกว่าพนักงานสอบสวนจะให้เอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ยอมรับว่าการสอบปากคำวันแรกที่ให้การกับวันนี้ไม่ตรงกันซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าที่นายอาเดมรับว่าเป็นชายเสื้อเหลืองนั้นอาจเป็นเพราะตำรวจเจอข้อมูลหรือพยานหลักฐานที่ไปยันจนทำให้เขาต้องเปลี่ยน ทำให้เขาต้องยอมรับในพยานหลักฐานเหล่านั้น ถือเป็นภาระอันหนักหน่วงของตำรวจ แต่ตนมั่นใจว่าที่สุดแล้วขอให้เครดิตตำรวจไทยว่าเก่งที่สุดในโลก
ถามต่อว่าตำรวจมีพยานหลักฐานอะไรที่ทำให้นายอาเดมยอมรับว่าเป็นชายเสื้อเหลือง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เป็นรายงานทางวาจาว่าชุดสืบสวนไปพบหลักฐานอีกหลายๆ หลักฐาน ซึ่งมีความเชื่อมโยงและสามารถหักล้างคำให้การของนายอาเดม หรือเป็นพยานหลักฐานที่สามารถจะยันให้เขาต้องจำนนต่อหลักฐาน แต่ตนต้องขอเรียนสื่อมวลชนว่าเรายังไม่สามารถเปิดเผยหลักฐานที่ว่าเหล่านั้นได้จนกว่าจะสามารถสรุปชัดเจนแน่นอนแล้ว เพราะผู้ต้องสงสัยเขาไม่ธรรมดา ไม่ใช่ว่าสอบถามหรือสอบปากคำแล้วจะพูดออกมาเลย ถ้าถามผิดพวกเขาหัวเราะเยาะในใจเลยว่าเราผิด เราไม่มีข้อมูล เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องมีพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนที่จะยิงคำถาม ที่ทำให้เขาอึ้ง และไม่สามารถปฏิเสธได้ นั่นคือแนวทางการทำงาน มันจึงต้องใช้เวลา ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่
เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานที่สามารถระบุว่านายอาเดมคือชายเสื้อเหลืองใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนเชื่ออย่างนั้น จึงกล้าพูดว่าตำรวจไทยเก่งที่สุดในโลก แต่ตนยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ในส่วนจะออกข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขอให้ใจเย็นๆ รอพยานหลักฐานก่อน แต่ที่บอกว่าเก่งเนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยเหมือนอารยประเทศเลยแต่เจ้าหน้าที่เราก็ทำได้ ทำได้ดีด้วย ตนจึงขอชื่นชมชุดที่ทำคดี ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพชายเสื้อเหลืองเข้าไปเปลี่ยนชุดนั้นยังไม่ทราบว่าที่เป็นข่าวว่ามีหลักฐานนั้นเป็นจริงหรือไม่ ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอของนายเมียไรลี ยูซูฟู หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และนายอาเดม พบว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่พบบนสายสะพายเป้ที่พบในที่เกิดเหตุ และบนธนบัตรใบละ 20 บาทที่ได้จากคนขับรถนั้นจะขัดต่อคำให้การของผู้ต้องหาหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า หากจะสรุปอะไรลงไป ไม่สามารถใช้พยานหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ แม้แต่คำให้การของผู้ต้องหา ผู้ต้องสงสัย หรือพยานก็ยังไม่สามารถสรุป ทุกอย่างอาจจะฟังไว้ได้ สุดท้ายแล้วก็ต้องเอาพยานหลักฐานต่างๆ มาประกอบกัน อย่างไรก็ตามตราบใดที่นายอาเดมยังอยู่ในความควบคุมของทหารนั้น การสอบปากคำใดๆ ต้องอยู่ในการดูแลและสายตาของทหาร จะต้องมีเจ้าหน้าที่ทหารมารับรู้รับเห็น รับฟังการสอบปากคำของพนักงานสอบสวน
“มาจนถึงตอนนี้ก็คิดว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่มาถูกทางแล้ว เห็นได้จากการจับกุมผู้ต้องสงสัยตั้งหลายราย มาจนกระทั่งสามารถออกหมายจับผู้ต้องสงสัยอีกนับสิบ ถือว่ามาถูกทางแล้ว เพียงแต่เราคาดหวังว่าเราจะสามารถจับได้ทั้งขบวนการหรือไม่ เพราะเราต้องการจับทุกคน ไม่ใช่แค่เสื้อเหลืองคนเดียวมาลงโทษได้ ใครที่เกี่ยวข้อง ต้องถูกดำเนินคดี ถือว่าเป็นเรื่องดีของประเทศไทย ที่เราสามารถจับคนเหล่านี้ได้ทันเวลา เพราะจากหลักฐานที่ปรากฏทำให้เชื่อได้ว่าไม่เช่นนั้นเราจะโดนอีกหลายจุด เนื่องจากพบว่ามีการเตรียมอุปกรณ์ และสารเคมีต่างๆ เพื่อจะก่อเป็นระเบิดอีกกว่า 10 ลูก ซึ่งหากทั้ง 10 ลูก ถูกไปวางในจุดต่างๆ คงสร้างความเสียหายมหาศาลแก่ประเทศไทย อาจเป็นเพราะประเทศเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราช ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากความหายนะมาได้” พล.ต.อ.สมยศกล่าว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า ผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ถือว่าเก่ง เวลาให้การจะตัดตอนแค่ตัวเรื่องของตัวเองไม่พูดถึงคนอื่น จะอ้างว่าไม่รู้จักซึ่งถือเป็นเทคนิค แต่หากเราสามารถหาพยานหลักฐานมาระบุได้ว่าไม่รู้จักได้อย่างไร เมื่อรุปถ่ายปรากฏว่ามีการยืนคุยกัน หลักฐานลักษณะนี้ทำให้ผู้ต้องหาไปไม่เป็น ตนเชื่อว่าตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจน และมีข้อมูลชัดเจนในการสอบปากคำแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ตนยังไม่รับรายงานว่าในคดีดังกล่าวมีพยานเพิ่มเติมหรือไม่ ก่อนหน้านี้ก็เรียกสอบพยานไปหลายปาก และหากคนใดไม่พบว่าเกี่ยวข้องก็ปล่อยตัวไป ทั้งนี้ยอมรับว่ากระแสข่าวออกไปในหลายทิศทาง และมีการเปลี่ยนไปมา แต่ก็ต้องยอมรับว่าธุรกิจสื่อมีจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีการแกะข้อมูล หรือนำเสนอข้อมูลด้วยความเร็วจนเกินไป จะเห็นจากหลายๆ ครั้งที่สื่อพยายามให้ตนตอบคำถามแต่ตนไม่ตอบ เนื่องจากเล็งเห็นว่าความเร็วจะทำให้ตนผิดพลาด อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้บอกว่านายอาเดมรับสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลือง และไม่ยืนยันว่านายอาเดมเป็นชายเสื้อเหลืองหรือไม่ ในข่าวต่างๆ ที่ออกมาเป็นความสามารถของสื่อมวลชนแต่ละคนที่จะไปล้วงลึก แกะกันเอาเอง แต่ตนในฐานะ ผบ.ตร.ไม่สามารถทำหรือพูดในลักษณะเช่นนั้นได้ ตนจะพูดได้ก็ต่อเมื่อชัดเจนแล้ว เนื่องจากหากพูดไปแล้วเสื่อมเสียต่อองค์การ ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ถ้าสื่อมวลชนสามารถหาข่าวเชิงลึกได้ก็นำมาบอกตน ต้องขอบคุณมาก เพราะบางครั้งตนก็ได้ข้อมูลต่างๆ จากสื่อมวลชน