ASTV ผู้จัดการ - ศาลอาญาไม่รับฟ้อง “มนัส สร้อยพลอย” อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำเลยร่วมคดีระบายข้าวจีทูจีฟ้อง อสส.-อธิบดีอัยการพิเศษ กลั่นแกล้งหรือฟ้องเท็จ ชี้คดีไม่มีมูล
วันนี้ (15 ก.ย.) นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีที่นายมนัส สร้อยพลอย อายุ 63 ปี อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ 4 ในคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริตและฮั้วประมูลโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด และนายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่น และขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175, 181 และ 83 เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า สำหรับคดีนี้ศาลอาญาได้มีคำสั่งไม่รับฟ้อง โดยไม่ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำฟ้องโจทก์ไม่มีมูล ส่วนรายละเอียดขณะนี้อยู่ระหว่างขอคัดคำสั่งอยู่ โดยส่วนตัวก็ไม่รู้สึกหนักใจที่โดนฟ้องแต่อย่างใดเพราะถือเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องได้ เช่นเดียวกับพนักงานสอบสวน หรือ ป.ป.ช.ที่ถูกฟ้องกัน ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่นั้นคงต้องดูคำสั่งศาลให้ละเอียดก่อน ซึ่งทางฝ่ายโจทก์เองก็ได้ขอคัดคำสั่งศาล และอาจจะนำไปยื่นขออุทธรณ์คำสั่งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำฟ้องดังกล่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2558 นายตระกูล จำเลยที่ 1 และนายชุติชัย จำเลยที่ 2 ร่วมกันเอาข้อความอันเป็นเท็จมาฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ อม.28/2558 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 21 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริตและฮั้วประมูลโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ
โดยทั้งสองเอาความเท็จมาฟ้องว่า วันที่ 26 ก.ย. 2554 โจทก์มีหนังสือกระทรวงพาณิชย์ ลับ ด่วนที่สุด ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอพิจารณาเห็นชอบให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการเจรจาซื้อข้าวตามโครงการรับจำนำของรัฐบาลและข้าวในสต๊อกของรัฐบาลกับผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศ ซึ่งมีการเจราจาชื้อขายแบบรัฐต่อรัฐให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลที่ได้รับความเห็นชอบจากประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ โดยข้อความที่เสนอ ครม.ให้พิจารณาอนุมัติดังกล่าวนั้นไม่มีคำว่ารัฐวิสาหกิจแต่อย่างใด
และต้องการกลั่นแกล้งโจทก์ให้ตกอยู่ในฐานะจำเลย โดยกล่าวหาว่าโจทก์เป็นผู้ปกปิดข้อความในหนังสือกระทรวงพาณิชย์ ที่ไม่ได้ระบุคำว่าการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐให้ครอบคลุมถึงรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลต่างประเทศด้วย อันเป็นข้อสาระสำคัญที่สุดในการพิจารณาการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐทำให้ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ โจทก์ไม่ได้ทำหนังสือเสนอพิจารณาให้ความเห็นชอบไปถึงเลขาธิการ ครม.แต่อย่างใด
