ทนายความ “บรรยิน” เผยกองปราบปรามฝากขังครั้งที่ 2 คดีโอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” ครบกำหนด 17 ก.ย. เหลือสอบพยานเพิ่มเติม 7 ปาก
วันนี้ (14 ก.ย.) นายบัญชา ชัยจำ ทนายความ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่เสียชีวิตเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ซึ่งได้มีการยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 2 ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน กำหนดฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-17 ก.ย.นี้ โดยคำร้องพนักงานสอบสวน ระบุว่า การสอบสวนพยานยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก ลดเหลือจากคำร้องฝากขังครั้งแรก 2 ปาก แต่ระหว่างนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียก พ.ต.ท.บรรยินไปสอบสวนเพิ่มเติมแต่อย่างใด และยังไม่ได้แจ้งว่าจะสรุปสำนวนความเห็นว่าควรจะฟ้องหรือไม่ฟ้องส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งคดีเมื่อใด ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวน มีระยะการยื่นคำร้องฝากขังได้ 7 ครั้ง รวมเวลา 84 วัน ดังนั้นต้องรอดูว่าพนักงานสอบสวน จะสรุปสำนวนคดีการโอนหุ้นนี้ได้ภายในการฝากขังผัดใด
ขณะที่นายเสกสรร เสนาชู ทนายความพริตตี้สาว กล่าวว่า สำหรับ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล ครบกำหนดฝากขังครั้งแรกแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 2 ต่อระหว่างวันที่ 8-19 ก.ย.นี้ โดยอ้างเหตุที่ต้องรอสอบปากคำพยานอีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ดีสำหรับ น.ส.กัญฐณาขณะนี้พักอยู่ที่บ้านภายหลังจากการคลอดบุตรแล้ว ก็ต้องรอพนักงานสอบสวนแจ้งอีกครั้งว่าจะมีการสรุปสำนวนเมื่อใด
นายเดชา ขุนทอง ทนายความของน.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวและน.ส.ศรีธรา พรหมา มารดา กล่าวว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องมีการสอบพยานเพิ่มเติมประมาณ 4-5 ปาก ดังนั้น พนักงานสอบสวนฯได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 2 ไว้ก่อนอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-18 ก.ย.นี้ โดยยังไม่มีการแจ้งว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการเมื่อใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร, ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม กรณีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง โดยชั้นฝากขัง พ.ต.ท.บรรยิน และ น.ส.กัญฐณา พริตตี้สาว ได้รับการปล่อยชั่วคราวไป โดยศาลอาญากรุงเทพใต้ ตีราคาประกันคนละ 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดี และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
ส่วน น.ส.ศรีธรา และ น.ส.อุรชา แม่-ลูกโบรกเกอร์ ศาลตีราคาประกันคนละ 3 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลเช่นกัน