ASTVผู้จัดการ - โฆษก ตร. รับไม่มีดีเอ็นเอ 2 จำเลยชาวพม่าที่ใช้สังหารนักท่องเที่ยวอังกฤษบนเกาะเต่า แต่มีหลักฐานอสุจิในช่องคลอดและทวารหนัก ดีเอ็นเอที่ก้นบุหรี่ รวมทั้งพยานแวดล้อมอื่นมัดแน่น ผลพิสูจน์ของ พฐ. แต่แรกก็ไม่พบที่จอบอยู่แล้ว ระบุเป็นแนวทางสู้คดีของทนาย หวังตัดประเด็นฆ่า
วันนี้ (12 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ขึ้นสืบพยานคดีเกาะเต่า ระบุว่า ดีเอ็นเอที่พบบนจอบ อาวุธที่ให้สังหารนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ และ น.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ นักเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ตรงกับนายซอริน และนายเวพิว 2 ผู้ต้องหาชาวพม่า ว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานหลายอย่างที่ใช้ในการพิสูจน์ว่าทั้งสองคนคือคนร้าย และเป็นพยานหลักฐานที่มีน้ำหนัก ทั้งอสุจิที่พบในช่องคลอดและทวารหนัก ดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่ รวมถึงพยานแวดล้อมต่าง ๆ
ส่วนกรณีที่ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ ระบุว่า ไม่พบที่จอบนั้น ผลใกล้เคียงกับการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจตั้งแต่แรก โดยทราบว่า ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์มาตรวจภายหลังผ่านไป 8 เดือนแล้ว ตนว่าผลครั้งแรกที่ตำรวจตรวจสอบแต่ต้น น่าเชื่อถือกว่าในแง่ระยะเวลา ซึ่งผลการตรวจสอบจอบในครั้งแรกก็ไม่พบดีเอ็นเอของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่จอบ แต่พบดีเอ็นเอแฝงเป็นลักษณะดีเอ็นเอผสม ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของใคร และดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิต ซึ่งการตรวจไม่พบ เป็นไปได้ว่าการจับจอบในระยะเวลาอันสั้น หรือมือเปื้อนทราย ทำให้ดีเอ็นเอไม่ติดที่จอบ
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า จอบไม่ใช่พยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะชี้ว่าทั้งคู่ก่อเหตุ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานมากกว่านั้น ทั้งนี้ เข้าใจการต่อสู้คดีของทนายจำเลย ที่ต้องการตัดประเด็นการสังหารให้เหลือเพียงการข่มขืน แต่ก็ยืนยันในพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ในสำนวนที่ชี้ว่ามีการกระทำผิดจริง และประเด็นพยานหลักฐานทั้งหมดก็ได้อธิบายให้ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด จากประเทศอังกฤษ รับทราบแล้ว ตั้งแต่ครั้งเดินทางมาประเทศไทย และตำรวจอังกฤษก็มั่นใจในการทำคดีของตำรวจไทย