xs
xsm
sm
md
lg

คาดออกหมายจับ “อิซาน” ตัวการระเบิด 1-2 วันนี้ พบเส้นทางเงินโยง “ค้ามนุษย์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายเมียไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดที่ถูกจับกุมได้ที่ จ.สระแก้ว ถูกนำตัวไปทำแผนที่บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยนายยูซุฟูเคยให้การว่ารู้จักกับนายอิซาน
ASTVผู้จัดการ - ชุดสืบสวนคาดออกหมายจับ “อิซาน” 1 - 2 วันนี้ โดยใช้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดและคำให้การพยาน พร้อมเผยผลพิสูจน์ระเบิดที่ศาลพระพรหมและท่าเรือสาทรเป็นชนิดเดียวกัน รอตรวจสอบเป็นทีเอ็นที หรือซีโฟร์ ยัน “ยูซูฟู” ไม่ได้จบวิศวเคมี แค่เคยเรียนแพทย์ที่จีน พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงขบวนการค้ามนุษย์ ส่ง ปปง. ตรวจสอบซ้ำ

วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. รายงานข่าวเปิดเผยความคืบหน้าคดีการวางระเบิดที่ศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขออนุมัติศาลมีบุรีออกหมายจับนายอิซาน หรือ นายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน อายุ 27 ปี ตามภาพกล้องวงจรปิดจาก ธ.กรุงเทพ ซอยรามคำแหง 22 และภาพสเกตช์จากคำให้การของพยานที่ระบุว่า นายอิซาน เข้าพักที่ไมมูณา การ์เด้นโฮม ซอยราษฎร์อุทิศ 25/8 ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

ส่วนผลการตรวจพิสูจน์ระเบิดจากอีโอดีนั้น ระบุว่า ระเบิดที่ศาลพระพรหม และระเบิดที่ท่าเรือสาทรนั้นเป็นชนิดเดียวกัน คือ ระเบิดแสวงเครื่องชนิดแรงดันสูง คาดว่า จะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางเคมีจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน จึงจะบอกได้ชัดเจนว่าเป็นระเบิดชนิดทีเอ็นที หรือซีโฟร์ เพราะสารตั้งต้นของระเบิดทั้ง 2 ชนิดเหมือนกัน จึงต้องตรวจสอบหาสารเคมีชนิดอื่น ๆ ว่า เป็นชนิดเดียวกับที่ตรวจพบในห้องพักนายอาเดม คาราดัก หรือ นายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด และนายเมียไรลี ยูซูฟู ที่พูลอนันต์อพาร์ทเม้นต์ และที่ไมมูณาการ์เด้นโฮม หรือไม่

นอกจากนี้ มีรายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายเมียไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่ จ.สระแก้ว นั้น ไม่ได้เรียนจบเทคนิคการแพทย์ หรือวิศวกรรมทางเคมี ตามที่มีการเสนอข่าว แค่เคยศึกษาแพทยศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยในประเทศจีน 5 ปี หลังจากนั้น ได้ออกจากมหาวิทยาลัย จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวในคดีระเบิด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการวางระเบิด ชุดสืบสวนพบพยานหลักฐานที่เชื่อว่าขบวนการดังกล่าวอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทย จึงส่งรายชื่อผู้ต้องสงสัยกลับไปให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น