xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องลึก “สมยศ” โวยตำรวจ ตม. เปิดเกมสกัดดาวรุ่งศิษย์ “พัชรวาท”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภัคดี ผบช.สตม.
จับสัญญาณ “บิ๊กอ๊อด” ไล่ถล่ม “ตรวจคนเข้าเมือง” ยุทธจักรสีกากีลือแซ่ด ปฏิบัติการดับเครื่องชนเด็กฟาร์มโชคชัย หวังมีเอี่ยวแต่งตั้งนายพลก่อนเกษียณฯ สกัดเส้นทางเติบโต “ศักดา ชื่นภักดี” ดาวรุ่งแรงหนุนอื้อทั้ง “พัชรวาท(น้องบิ๊กป้อม)-คู่เขยบิ๊กตู่” คาดคำขู่ ผบ.ตร.ไม่มีความหมาย

แม้ใกล้วันเกษียณอายุราชการของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เข้าไปทุกขณะ แต่ดูเหมือนว่าเวลาอันน้อยนิดที่เหลืออยู่กลับไม่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่สร้างความฮือฮาให้แก่สังคมไทยโดยตลอด ล่าสุดจากการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่ระดับสารวัตรขึ้นไปทุกด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศจำนวน 259 นาย “บิ๊กอ๊อด” สะกดผู้เข้าร่วมประชุมด้วยข้อมูลลึก “ชำแหละ” พฤติกรรมในมุมมืดของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ชนิดไม่เคยมีผู้นำตำรวจคนใดเคยทำมาก่อน

โดย 6 เส้นทางทุจริตที่ตำรวจ ตม.บางกลุ่มบางคนกระทำกัน ได้แก่ รับจ้างทำเรื่องขยายเวลาอยู่ต่อในประเทศไทย, เปลี่ยนวีซ่าจากท่องเที่ยวเป็นนักธุรกิจ, สร้างหลักฐานเท็จให้มีตัวเลขในบัญชีครบตามจำนวนกฎหมายกำหนด, สำหรับผู้อยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิต ยินยอมให้เข้า-ออกเมืองโดยผิดกฎหมายทั้งที่ไม่มีหนังสือเดินทาง เช่น ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีผลประโยชน์กับบ่อนพนัน ขายบัตร ตม.6 แก่แรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศ เรียกเก็บวีซ่า ณ ด่าน ตม.นอกเหนือค่าธรรมเนียมหัวละ 300 บาทในแต่ละวันจะมีผู้ใช้บริการประมาณ 6,000 คนทำให้มีส่วยมากถึงวันละ 1,800,000 บาทต่อวัน

“ผมเคยอยู่มาก่อน ผมรู้หมดว่า ตม.ทำอะไร การร้องเรียนตลอดห้วงเวลา 1 ปีทุกคนเคยทำอะไรกันก็ยังทำต่อไป หากพล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยังเฉยเมยไม่จัดการกับพวกนี้ ผมจะจัดการกับผู้บัญชาการ สตม.เอามาช่วยราชการ” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ปิดการประชุมด้วยท่าทีแข็งกร้าว เล่นเอาบรรดาตำรวจน้อยใหญ่ของ สตม.ที่ร่วมประชุมหนาวๆ ร้อนๆ ตามกัน

ช็อตเด็ดสะใจซาดิสต์แบบนี้มีหรือสังคมสีกากีรวมทั้งสื่อสายอาชญากรรม จะไม่มีคำถาม?! อะไรทำให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เกิดอาการตบะแตกทั้งที่ก่อนหน้าไม่เคย “เหวี่ยง” หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งแบบเอาเป็นเอาตายขนาดนี้เพราะข้อหาที่ “บิ๊กอ๊อด” ประเคนให้กับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนั้นสามารถย้ายได้ตั้งแต่ระดับหัวยันหางแบบทันทีทันใด

เทียบเคียงกรณีตำรวจท้องที่ปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนัน หรือซ่องโสเภณีอยู่ในท้องที่ อาการ “ไม่ปลื้ม” ถึงขนาดทำปืนลั่นข้างกกหู ผบช.สตม. ย่อมไม่ธรรมดา เป็นเพราะผลงานไม่เอาอ่าวปล่อยให้โจรผู้ก่อการร้ายข้ามชาติเต็มบ้านเต็มเมืองหรือมีข้อคับข้องใจต่างๆ อยู่เบื้องหลัง

หรือนี่คือสัจธรรมของคนกำลังใกล้หมดอำนาจ เพราะทันทีที่ “ทีมข่าวอาชญากรรม ASTV ผู้จัดการ” สืบเสาะหาข้อมูลบรรดาแหล่งข่าวน้อยใหญ่ของวงการสีกากี ต่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลังสอดคล้องต้องกันว่า อาการ “เม้งแตก” ของ “บิ๊กอ๊อด” ไม่น่าจะเกี่ยวกับความหย่อนยาน หรือปัญหาก่อการร้ายที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่แม้แต่น้อย เพราะว่าไปแล้ว “สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง” เป็นเพียงหน่วยงานหนึ่งเท่านั้นที่ร่วมรับผิดชอบด้วย ยังมีหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมายเช่น กอ.รมน. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ฝ่ายข่าวความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล หรือกระทั่งฝ่ายปกครองที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด สวมหมวกประธาน กอ.รมน.จังหวัด รวมทั้งเหตุการณ์มือระเบิดเตรียมหลบหนีในช่องทางธรรมชาติ หรือ “ช่องหมารอด”หากเป็นเช่นนั้นแล้วตำรวจ ตม.ไม่น่าจะมีความผิดเพราะ “ช่องหมารอด” ตามตะเข็บชายแดน จ.สระแก้ว ทราบกันดีว่ามีมากมายถึง 13 ช่องแต่ละช่องอยู่ในการดูแลของทหาร ตชด.และฝ่ายปกครอง ขบวนการนำพาต่างด้าวเข้าราชอาณาจักรไทย จึงมีผู้เกี่ยวข้องอย่างมากมาย

สำคัญที่สุดตลอดเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในฐานะเป็นผู้นำสูงสุดขององค์กรสีกากี ไม่เคยอินังขังขอบกับบทวิจารณ์ หรือข้อติติงจากสื่อแม้แต่น้อยเพียงแต่เที่ยวนี้ “บิ๊กอ๊อด” กลับหยิบยกสาเหตุที่ออกมาหวดก้นตำรวจ ตม.ก็เพราะทนสื่อวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจในทางเสียๆ หายๆ ไม่ได้

ข้อมูลอีกด้านของปฏิบัติการ “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” โดยการกระแทก พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.ตม.ถึงขั้นออกปากจะสั่งย้ายมีความเห็นของผู้รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังระบุว่า น่าจะมาจากความขุ่นข้องหมองใจแต่เก่าก่อนเพราะตำแหน่ง ผบช.สตม.ล้วนเป็นที่หมายปองของนายตำรวจแทบทุกคน เหตุผลไม่มีอะไรมากกว่างานสบาย เงินดี สังคมเด่น บรรดาผู้เข้าประกวดทั้งหลายจึงต้องมีปลอกคอแข็ง มีเส้นสายได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นสมัยรัฐบาลพลเรือนหรือรัฐบาลทหาร ต่างใช้ตรรกะเเดียวกันทั้งสิ้นคือ “สมบัติผลัดกันชม”

เช่นเดียวกับรัฐบาลทหารภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่ทราบกันดีว่า บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายบรรดานายพลตำรวจ ล้วนแต่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก “บ้านใหญ่ฟาร์มโชคชัย” อันเปรียบเสมือน ก.ตร.ตัวจริง เป็นยิ่งกว่าคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เป็น “ซูเปอร์คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ” ที่สามารถดลบันดาลความเจริญก้าวหน้าให้กับใครก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมองคนรอบๆ ตัว คนใก้ลชิดที่สามารถวางใจได้เป็นอันดับแรก

พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม. นรต.36 อยู่ในข่ายนั้น ข่าวว่าผู้อยู่เบื้องหลัง พล.ต.ท.ศักดาต้องการดันให้ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ในครั้งนี้ เพื่อไต่บันไดไปคั่วตำแหน่ง ผบ.ตร.ในอีกไม่กี่ปีภายหน้า เพราะหาก พล.ต.ท.ศักดาขึ้นไปในระดับบริหารปีนี้ ยังเหลืออายุราชการอีก 7 ปี คือจะเกษียณอายุปี 2564 ถ้ายังหายใจอยู่เก้าอี้ประมุขสีกากีไม่หนีไปไหน และอำนาจของตำรวจก็ยังอยู่ในมือของกลุ่มอำนาจเดิมอีกยาว

ประวัติคร่าวๆ ของนายตำรวจผู้นี้ เคยเป็นหัวหน้าสำนักงาน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. น้องชายสุดเลิฟ “บิ๊กป้อม” มาก่อน เป็นเด็กปั้นและมอบหมายภารกิจเฉพาะ เช่น เรื่องเข้านอกออกในของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองฝั่งตรงข้ามรัฐบาล ที่เหลือคือการสแกนบุคคลไม่พึงประสงค์ ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่า

สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ความสำคัญต่อภารกิจด้านนี้หรือไม่ เพราะหลังจากถูก ผบ.ตร.ตำหนิจนไม่มีชิ้นดีกลับมีเสียงสวนกลับทำนองว่า เขาทำกันอย่างเต็มที่แล้วแต่ “บิ๊กอ๊อด” แสร้งมองไม่เห็น

ปรากฏการณ์ถล่มเด็กในคาถาฟาร์มโชคชัย แบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ยังเชื่อกันว่าน่าจะมาจากความกระด้างกระเดื่องของ ผบช.สตม.ที่มีต่อ ผบ.ตร.

คราวนี้กลับมาดูคอนเนกชัน ของ ผบช.สตม.ผู้นี้กันอีก นอกจากมีความสัมพันธ์อันดีกับน้องชายสุดเลิฟของผู้กุมอำนาจตัวจริงเสียงจริงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ยังได้รับการสนับสนุนจาก พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ อดีต ผบช.สตม.ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีความเกี่ยวดองกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ “คู่เขย” จึงเห็นได้ว่าการจงใจทำปืนลั่นข้างกกหูของ ผบช.สตม.นี้ไม่ทำให้เกิดอาการสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย

จังหวะนับถอยหลังเหลืออีกเพียงเล็กน้อยก็จะหมดวาระของ ผบ.ตร.คนที่ 10 ไปแล้ว เป็นเรื่องปกติที่นกกาจะเริ่มโบยบินไปหาที่เกาะกันใหม่ บรรยากาศสำนักงานผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เคยคึกคักบัดนี้เริ่มเงียบเหงา การพิจารณาแต่งตั้ง-โยกย้ายระดับนายพลตำรวจที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เคยสัมผัสมาแล้ว เคยพบเจอมาแล้วว่า “อำนาจ” แท้จริงอยู่ที่ไหนเมื่อมาเจอกับตัวเองอำนาจราชศักดิ์ที่พอมีอยู่บ้างจึงต้องสำแดงให้ “อำนาจนอกระบบ” เกิดความเกรงอกเกรงใจ

ประเด็นนี้จึงมองกันว่าการแต่งตั้งนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ บัญชาการ ในฐานะ ผบ.ตร.ถึงแม้ว่าจะใก้ลเป็นอดีตแต่คงมี “น้ำยา” แสดงฤทธิ์เดชอะไรได้บ้าง...

ผลกระทบจากแรงกระแทกที่ตกไปยัง พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม.อันเสมือนเด็กในบ้านฟาร์มโชคชัย จะมีผลอย่างไรต่อไปหรือไม่ แน่นอนว่าอาจจะมีใครหยุดฟัง หรืออาจไม่มีใครสนใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น