“หมอแอร์” เบิกความไต่สวนคดีฟ้อง “ไฮโซตั๋ม” บุกคลินิกโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทอีกสำนวน ศาลนัดฟังคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ 7 ต.ค.นี้
วันนี้ (7 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีดำ อ.1153/2558 ที่ พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือไฮโซตั๋ม เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า น.ส.วิชชุดา จำเลยได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 และให้สัมภาษณ์หมิ่นประมาทผ่านหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ทำนองว่าโจทก์เป็นมือที่ 3 และเป็นสาเหตุให้ น.ส.วิชชุดา กับแฟนหนุ่มเลิกรากัน จากการโพสต์เฟสบุ๊กและการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในลักษณะต่อว่า ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง มีผลกระทบเสียหายต่อครอบครัวและหน้าที่การงาน
โดยในวันนี้ พ.ต.ท.พญ.อัญชุลีเดินทางมาพร้อมกับนายอนัญลักษณ์ นิ่มนวล พยานโจทก์และทนายความ
เมื่อถึงเวลาไต่สวน พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี โจทก์เบิกความระบุว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่โจทก์กำลังแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ดิแอร์คลินิก จำเลยได้เข้ามาในคลินิกและด่าทอ จากนั้นยังได้โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาทำนองว่าโจทก์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเแย่งแฟนคนอื่น มีหนี้สินและค้างค่าเช่า ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
โจทก์เบิกความต่อว่ารู้จักกับ พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล หรือรองอั๋น เพราะได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปรณรงค์ช่วยเหลือตำรวจผู้พิการ ในวันที่ 13 ตุลาคม 2557 ซึ่งโจทก์กับ พ.ต.ท.อรรถพล ทำงานและปฏิบัติหน้าที่ประชาสัมพันธ์ จึงได้พบเจอกันบ่อยและเคยไปรับประทานอาหารที่ศูนย์การค้าย่านบางนาด้วยกัน ขณะนั้น พ.ต.ท.อรรถพลบอกว่าได้เลิกรากับจำเลยแล้ว โดยรู้จักคบหากันในฐานะเพื่อนร่วมงาน จากนั้นจำเลยได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กทำให้โจทก์ได้รับเสียหาย
ต่อมาทนายโจทก์ได้นำนายอนัญลักษณ์ นิ่มนวล พยานโจทก์อีกปากเบิกความเสร็จแล้ว ศาลจึงนัดฟังคำสั่งประทับรับฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 7 ตุลาคม 2558 เวลา 09.00 น.
ด้าน พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี หรือหมอแอร์ กล่าวว่า ตนได้ยื่นฟ้อง น.ส.วิชชุดาในคดีหมิ่นประมาทรวม 2 สำนวน ซึ่งศาลอาญาประทับรับฟ้องไปแล้ว 1 สำนวน นอกจากนี้ยังได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.วิชชุดา ไว้ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ด้วย
