ASTV ผู้จัดการ - ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตามรวบแก๊งค้ายาบ้าได้ของของกว่า 4 แสนกว่าเม็ด รถยนต์ของกลาง 3 คัน ผู้ต้องหา 6 ราย ตรวจพบเชื่อมโยงขบวนการก่อความไม่สงบสามจังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (6 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ผบก.ปส.4 พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.เพชรรัตน์ แสงชัย รอง ผบช.จเรตำรวจ ช่วยราชการ บช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก ส.ก.ส.บช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ไชยา รุจจนเวท ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล รอง ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.วรวิทย์ ไวถนอมสัตว์ รอง ผบก.ปส.2 (หน.สนง.ผบช.ปส.) พ.ต.อ.ชัยโรจน์ ชัยยะ รอง ผบก.ปส.2 (โฆษก บช.ปส.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมจำนวน 2 คดี มีผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 203 มัด รวมประมาณ 406,000 เม็ด พร้อมของกลางรถยนต์เก๋งจำนวน 3 คันและทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ
คดีแรก แถลงผลการจับกุมนายบาฮารี หมื่นสมบูรณ์ อายุ 22 ปี ชาวนราธิวาส พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 103 มัด หรือประมาณ 206,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วอ 9929 กทม. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขานราธิวาส 1 ใบ โดยจับกุมได้บริเวณที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถนนเพชรเกษม (ชุมพร-กทม.) หมู่ 2 ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 58 เวลาประมาณ 06.30 น. ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.เรวัชกล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.414, สภ.ท่าแซะ, สภ.บ้านมาบอำมฤต, สภ.ปะทิว, สภ.สลุย และกก.ปพ.บก.สส.ภ.8 ได้ตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม (กทม.-ชุมพร) ต่อมาพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วอ 9929 กทม.ขับมาที่ด่านตรวจ เจ้าหน้าที่พบนายฮาบารีมีท่าทางพิรุธอย่างเห็นได้ชัดจึงเข้าตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 206,000 เม็ดซุกซ่อนภายในรถดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางและส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีต่อไป จากการสอบสวนนายบาฮารีรับสารภาพว่าตนรับจากขนยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ได้ค่าจ้าง 200,000 บาท
คดีที่ 2 แถลงผลการจับกุมนายดาหมิ๊ ดาโอ๊ะ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/3 หมู่ 2 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 1), นายอับดุลอาชิ ตีมุง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/3 หมู่ 8 ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 2), นายลุกมัน บากา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 4 ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 3), นายอาหะมะยาลี หะแว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/8 หมู่ 2 ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 4) และนายอับดุลอาชิ อิสมาแอ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 8 ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 5) พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 100 มัด ประมาณ 200,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน ฉน 6536 กทม. รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ธง 7122 กทม. และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ 1-3 บริเวณตู้ยามสายตรวจนิคม หมู่ 1 (ขาออก) ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และผู้ต้องหาที่ 4-5 จับกุมได้บริเวณถนนเพชรเกษม (ขาออก) ตำบลนายาง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 58 เวลาประมาณ 10.40 น. ต่อเนื่องไปถึง 11.00 น.ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า )ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.เรวัชกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหาข่าวทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้าจาก กทม.ไปจำหน่ายที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการสืบสวนติดตามทราบว่ากลุ่มคนร้ายมาพักอยู่ที่ศสีรีสอร์ท ถนนกาญจนาภิเษก อำเภอบางบัวมอง จังหวัดนนทบุรี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย.พบว่ากลุ่มคนร้ายได้เดินทางออกจากที่พักด้วยรถยนต์จำนวน 2 คัน ต่อมาเวลาประมาณ 08.15 น.พบรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมีนายอับดุลอาชิทำหน้าที่ขับขี่ นายดาหมิ๊ และนายลุกมันภายในรถ ขับขี่รถยนต์มาตามเส้นทางถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปยังถนนพระราม 2 จากนั้นพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าสีเขียว โดยมีนายอาหะมะยาลีทำหน้าที่ขับขี่ และนายอับดุลอาชิโดยสารมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์แต่ไม่สิ่งผิดกฎหมายใดๆ ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดสามารถตรวจค้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า พบยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ดภายในรถคันดังกล่าว จึงได้ยึดของกลางไว้ทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป จากการสอบสวนนายอับดุลอาชิรับสารภาพว่ารับจ้างขนยาเสพติดมาทั้งหมด 4 ครั้งแล้ว โดยครั้งนี้จะได้ค่าจ้าง 350,000 บาท
พล.ต.ท.เรวัชกล่าวอีกว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการเร่งรัดติดตามของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นเส้นทางการดำเนินการลำเลียงยาเสพติดไปสู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อย่างไรก็ตาม การจับกุมยาเสพติดทั้ง 2 คดีนี้ถือว่าเป็นผู้ต้องหารายสำคัญโดยมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ โดยกลุ่มขบวนการดังกล่าวมีเส้นทางขนยาเสพติดมาจากประเทศพม่า ข้ามผ่านประเทศลาวและเข้ามายังภาคอีสานของไทย จากนั้นจะให้ชาวมุสลิมทางภาคใต้ส่งคนขึ้นไปรับยาเสพติดที่ริมแม่น้ำโขง โดยใช้รถยนต์ที่มีช่องเซฟ ก่อนที่จะนำไปจำหน่ายและนำเงินที่ได้มาสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ ส่วนยาอีกจำนวนหนึ่งจะส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ส่วนอีกคดีหนึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำจังหวัดสงขลา โดยกรมราชทัณฑ์ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามพฤติการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้อยู่สักระยะแล้ว จากนั้นจึงวางแผนและระดมกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด