“วัชระ เพชรทอง” อดีต ส.ส.ปชป.ยื่นหนังสือให้อัยการสูงสุด ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีไม่ฟ้อง “โอ๊ค-พานทองแท้” กับพวก 4 คน ในความผิดฐานรับของโจร
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (1 ก.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและขอสำเนาการประชุมร่วมระหว่าง ป.ป.ช.กับพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2552 กรณีมีมติไม่ฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร พร้อมพวกรวม 4 คน ในความผิดฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ในคดีธนาคารกรุงไทยฯปล่อยกู้โดยมิชอบ 9,000 กว่าล้านบาท ให้แก่บริษัท กฤษดามหานคร ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้จำคุกนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยไปแล้ว โดยมีนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล ผู้ตรวจการสำนักงานอัยการสูงสุด อดีตอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เจ้าของสำนวนคดีทุจริตปล่อยกู้แบงก์กรุงไทยฯเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นายวัชระกล่าวว่า ตนเห็นว่าการทำงานของพนักงานอัยการกรณีไม่สั่งฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร กับพวกรวม 4 คน ในข้อหารับของโจร ยังมีความคลางแคลงน่าสงสัย ทั้งนี้ เพื่อให้สังคมหายสงสัยเคลือบแคลงใจ จึงขอถามอัยการสูงสุดว่าพนักงานอัยการมีเหตุผลใดในการสั่งไม่ฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร กับพวก 4 คน รวมทั้งขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าการสั่งไม่ฟ้องในกรณีดังกล่าวนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้จะขอคัดสำเนาเอกสารการประชุมร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช. แม้ว่าเมื่อวานนี้นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล และรองโฆษกสำนักงานสูงสุดจะออกมาชี้แจงเหตุผลที่ไม่ฟ้องนายพานทองแท้ กับพวก โดยอ้างว่านายพานทองแท้กับพวกไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และให้แยกฟ้องคดีต่อศาลอาญาแล้วก็ตาม
ด้านนายวินัย ดำรงมงคลกุล อดีตอธิบดีอัยการคดีพิเศษ กล่าวว่า แม้ว่าสำนักงานอัยการสูงสุดจะไม่สั่งฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร กับพวกในข้อหารับของโจรก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ยังสามารถรวบรวมหลักฐานส่งเรื่องมายังสำนักงานอัยการสูงสุด ในคดีฟอกเงินซึ่งเป็นข้อหาที่หนักกว่าได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 13.30 น. นายวัชระจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดีต่อนายพานทองแท้ในข้อหาฟอกเงินอีกด้วย