ศาลสั่งจำคุก 15 วัน ปรับ 4,000 บาท สองสาวชุดแดงเต้นยั่วยวนในวัดไชยวัฒนาราม ฐานผิด พ.ร.บ. โบราณสถาน โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี พร้อมสั่งจำคุกและปรับหนุ่มใหญ่ลูกครึ่งไทย - อินเดีย ผู้จ้างวาน ในอัตราโทษเดียวกัน
จากกรณี น.ส.ธัญณิชา นามปัญญา และ น.ส.นิธิกานต์ โชติธนพงศ์สถิต สองสาวสวมใส่ชุดวาบหวิวสีแดงเต้นประกอบเพลงด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสมภายในโบราณสถาน วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีการถ่ายคลิปและถูกนำออกเผยแพร่ทางโลกออนไลน์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมและเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. โบราณสถาน ซึ่งต่อมาหญิงสาวทั้งสองราย ได้ติดต่อเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบตัว กระทั่งมีการคุมตัวไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (11 ส.ค.) พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ภ.1 กล่าวถึงความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้พิจารณาดำเนินคดีในข้อหากระทำการใด ๆ ในเขตโบราณสถานอันเป็นที่น่ารังเกียจ หรือเสื่อมเสียต่อศีลธรรมและวัฒนธรรม หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้เข้าชมอื่น ๆ ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก 15 วัน ปรับ 4,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี
พล.ต.ต.ศานิตย์ เปิดเผยด้วยว่า นอกจากนี้ ในวันเดียวกันทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นายราเมศร์ ศกุนตะลักษณ์ หรือ บ๊อบบี้ อายุ 56 ปี ลูกครึ่งไทย - อินเดีย ครูสอนวิชามวย โรงเรียนมัธยม และรับสอนให้กับบุคคลทั่วไป และชื่นชอบการถ่ายภาพ ซึ่งเป็นผู้จ้างวานหญิงสาวทั้งสองรายให้มาเต้นในโบราณสถานดังกล่าว โดยอ้างว่าจ้างให้มาเต้นประกอบเพลงเพื่อเก็บไว้ดูเล่น อย่างไรก็ดี พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายราเมศร์ส่งฟ้องต่อศาลโดยดำเนินคดีในความผิดฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำผิดด้วยการใช้จ้างวานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 และ พ.ร.บ. โบราณสถาน โดยศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 15 วัน ปรับ 4,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี
อนึ่ง จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ไม่พบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมกระทำการเป็นขบวนการในรูปบริษัท หรือองค์กรใด ๆ เพื่อการค้าหรือในเชิงพาณิชย์ แต่เป็นเพียงรสนิยมส่วนตัวในการจ้างบุคคลมาถ่ายภาพตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเก็บสะสม โดยผู้กระทำการนั้นสำนึกผิดแล้ว พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะไม่กระทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ดี ทางตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศิลปากร สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์ให้เคร่งครัดในการตรวจตรา และดำเนินการตามนโยบายพิทักษ์วัด และโบราณสถาน โดยเพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังวัดและโบราณสถานสำคัญ และให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวให้แต่งกายสุภาพ มีกิริยาที่สำรวมเหมาะสมกับสถานที่