xs
xsm
sm
md
lg

ปทุมธานีรุกเปิดตลาดสินค้ากัมพูชาและอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผู้ว่าฯ จังหวัดปทุมธานี ส่ง “โอทอป” รุกตลาดกัมพูชา ในงานแสดงสินค้าท้องถิ่น ที่กรุงพนมเปญเล็งตลาดอาเซียน และย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน

นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการ จ.ปทุมธานี นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานหอการค้าไทย นางจิรนันท์ วงศ์มงคล อัครราชทูตที่ปรึกษา (การพาณิชย์) กรุงพนมเปญ และ นายลิมเพ็ง รองประธานหอการค้ากัมพูชา ร่วมเปิดงานแสดงสินค้าท้องถิ่นของดีปทุมธานี หรือ Pathumthani Otop Festival to AEC อย่างเป็นทางการ ณ ห้างสรรพสินค้าพารากอน กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่าง วันที่ 29 ก.ค.- 2 ส.ค. นี้ รวม 5 วัน โดยมี นายดามพ์ บุญธรรม อัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี

นายธวัชชัย ศรีทอง หัวหน้าสำนักงานจ.ปทุมธานี กล่าวว่า งานแสดงสินค้าท้องถิ่นของดีปทุมธานี จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ โดยได้นำผู้ประกอบการสินค้าโอทอปมาออกร้านแสดงและจำหน่ายกว่า 50 ร้านค้า เช่น สินค้าประเภทของกินของใช้ เครื่องสำอาง สมุนไพร และอาหารแปรรูป เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของจังหวัด ที่ว่า ปทุมธานีเป็นเมืองสิ่งแวดล้อม สะอาด อาหารปลอดภัย แหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ และพักผ่อนหย่อนใจของอาเซียน สังคมอยู่เย็นเป็นสุข นอกจากจะสร้างรายได้ให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการโดยตรงแล้ว ยังช่วยสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการค้า กระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าโอทอป รวมทั้งมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการผลิตควบคู่ไปด้วย

นายดามพ์ บุญธรรม อัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา กล่าวว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้นำสินค้าจำหน่ายยังต่างประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก และยังนับเป็นโอกาสดีที่จะใช้โอกาสนี้สร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วย พร้อมได้กล่าวชื่นชม จ.ปทุมธานี ที่มองการณ์ไกล มีวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือ SME ของจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรมทั้งการนำสินค้าโอทอป มาจำหน่ายและยังมีการเซ็นเอ็มโอยู ของผู้ประกอบการด้วยทั้งสองประเทศด้วย

นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า คนกัมพูชาชื่นชอบสินค้าไทยมากกว่าสินค้าจากที่อื่น เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ ตลาดการค้าของกัมพูชายังคงมีความต้องการสินค้าจากไทยอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร

นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการ จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ประเทศไทยกับกัมพูชา มีการติดต่อเชื่อมสัมพันธ์กันมานานกว่า 200 ปีแล้ว ทั้งด้านการค้า การลงทุน การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม การเกษตร การท่องเที่ยว และในด้านการค้าระหว่างไทย - กัมพูชา นั้น มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นทุกปี การพัฒนาตลาดเชิงนวัตกรรมให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน จัดกิจกรรมการขยายช่องทางการตลาดสินค้าการส่งเสริมการตลาดในต่างประเทศรวมถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการธุรกิจท้องถิ่นของจังหวัดปทุมธานี มีความตื่นตัวที่จะยกระดับการผลิตและจำหน่ายสินค้าให้สูงขึ้น สามารถแข่งขันในระดับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ให้ความสนใจและเชื่อมั่นในสินค้าไทย การนำผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก ของ จ.ปทุมธานี เปิดตัวที่กรุงพนมเปญ ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพและมองลู่ทางในการแข่งขันทางธุรกิจเป็นการตลาดเชิงรุก และสร้างผู้ประกอบการรายใหม่สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นอกจากนี้ มีการจับคู่ผู้ประกอบการไทยกับนักธุรกิจชาวกัมพูชา 4 คู่ธุรกิจ ประกอบด้วย นางชุติปภา สุทธิกิตติ เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง นางสาวสุกัญญา น้อยวี ผลิตภัณฑ์น้ำจิ้ม นายสุชาครีย์ หอมชื่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพรกำจัดแมลง และนางสาวอรวรรณ กนกวิไลรัตน์ เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ คาดว่า จะมีผู้สนใจเพิ่มขึ้นและจะทำให้ จ.ปทุมธานี มีช่องทางและเครือข่ายการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการดำเนินงานนั้นจะเร่งส่งเสริมการย้ายฐานผลิตของไทยไปยังสมาชิกอาเซียนเพื่อผลิตสินค้าป้อนตลาดในไทย ส่งออกไปตลาดอาเซียน และส่งออกไปสู่ประเทศที่ 3 ซึ่งมองว่าจะเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ ทั้งจากการใช้ประโยชน์ในด้านค่าแรงที่ถูก มีแหล่งวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์ ประโยชน์ด้านภาษี ที่ประเทศในกลุ่มกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม (CLMV) ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในการส่งออกไปยังประเทศพัฒนาแล้ว รวมถึงจะมีการส่งเสริมการตลาด การจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเจรจาธุรกิจให้สินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทยได้เป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับจากประเทศอาเซียนเพื่อรักษาตลาดไว้และขยายส่วนแบ่งตลาด


กำลังโหลดความคิดเห็น