“หลวงปู่พุทธะอิสระ” จี้กองปราบปรามเร่งรัดคดี “ธัมมชโย” ฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ฉ้อโกงยักยอกเงินวัด พร้อมแจ้งเพิ่มข้อหาหมิ่นเบื้องสูง กรณีบังอาจบังอาจขอพระราชทานสถาปนาเลื่อนสมณศักดิ์ทั้งที่ปาราชิกขาดจากความเป็นพระสงฆ์ พร้อมนำหลักฐานไปมอบให้ รมว.ยุติธรรม
วันนี้ (27 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พระสุวิทย์ ธีรธัมฺโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมทนายความ และศิษยานุศิษย์กว่า 20 คน เข้าพบ พ.ต.ท.สมนึก สันติภาตะนันท์ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อทวงถามความคืบหน้ากรณีที่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในความผิดฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ และฉ้อโกงประชาชน ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้มีพระลิขิตให้พระธัมมชโยต้องปาราชิกขาดจากความเป็นพระสงฆ์ จึงถือว่าขาดจากความเป็นพระสงฆ์แล้ว รวมทั้งกรณีที่มีการยักยอกเงินของวัดพระธรรมกายไปโดยทุจริต
หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวว่า นอกจากจะมาติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวแล้วก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อธัมมชโยในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เนื่องจากพบว่า ธัมมชโยบังอาจขอพระราชทานสถาปนาเลื่อนสมณศักดิ์ ระดับพระราชาคณะชั้นเทพ เป็นการกระทำที่ละเมิดและบิดเบือนพระธรรมวินัย
หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวต่อว่า ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ได้แจ้งความไว้ เพราะได้ให้เวลากับพนักงานสอบสวนดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว อยากให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาภายในเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากหากล่วงเลยไปถึงช่วงปลายปี หรือในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ เกรงว่าจะกระทบต่องานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระสังฆราช ทำให้พระองค์ต้องทรงมีมลทิน ทั้งนี้ สำหรับเอกสารที่เป็นหลักฐานในกรณีแต่งกายเลียนแบบสงฆ์นั้นมีความชัดเจนอยู่แล้ว จึงอยากให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดคดีนี้ ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงคงต้องขอให้แยกคดีไม่รวมเป็นคดีเดียวกัน เพราะเกรงว่าหากรวมเป็นคดีเดียวกันอาจจะต้องมีขั้นตอนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกันใหม่ ส่งผลให้คดีเดิมที่แจ้งความไว้แล้วอาจมีความล่าช้าไปอีก
ด้าน พ.ต.ท.สมนึกกล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เร่งรัดดำเนินการโดยยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เนื่องจากเอกสารทั้งหมดยังต้องตรวจสอบกับทางสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการ โดยอาจจะต้องมีการเชิญตัวพระธัมมชโยเข้าให้ปากคำก่อนจะมีความเห็นในส่วนของพนักงานสอบสวนในคดีนี้ต่อไป
ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) หลวงปู่พุทธะอิสระ เดินทางเข้ายื่นหนังสือเกี่ยวกับการฟ้องร้องกล่าวโทษพระธัมมชโย ต่อ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมีตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนรับหนังสือ
หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวว่า วันนี้ได้นำเอกสารที่รวบรวมได้ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเอกสารลับที่ได้จากศาล อัยการ และสำนักตรวจเงินแผ่นดิน รวมถึงหนังสือพระวินิจฉัยของสมเด็จพระสังฆราช จำนวน 5 ฉบับ ที่ระบุว่า พระธัมมชโยปาราชิก และหนังสือร้องทุกข์ของชาวมุสลิมที่วัดพระธรรมกายได้พยายามดึงเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนา ซึ่งมีโฆษกของมหาเถรสมาคมก็ให้ความร่วมมือด้วย มามอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อเร่งรัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด ให้ติดตามคดีให้แล้วเสร็จก่อนวันพระราชทานเพลิงศพของสมเด็จพระสังฆราชในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวอีกว่า หลังจากวันนี้จะเดินทางไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อย้ำเกี่ยวกับคดีอีกครั้งว่าหากไม่ปฏิบัติตามหน้าที่จะโดนข้อหาละเว้นหน้าที่ตามกฎหมาย