xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งลักบัตรเครดิตนักท่องเที่ยวไปรูดซื้อสินค้า ทำมานานกว่า 10 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายพิธาวัชร์ อัครฐิติวีรกุล หรือหมง ผู้ต้องหา
ตร.ท่องเที่ยว รวบแก๊งลักบัตรเครดิตของนักเที่ยวบนรถโดยสารไม่ประจำทาง ก่อนนำไปรูดซื้อสินค้าแบรนด์เนมมูลค่ากว่า 300,000 บาท สารภาพก่อเหตุมากว่า 10 ปี ตร.เตรียมขยายผลสาวถึงผู้ร่วมขบวนการ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (22 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พ.ต.อ.ศุภพล อรุณสิทธิ์ รรท.ผบก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.1บก.ทท. พ.ต.ต.ศิลา ตันตระกูล สว.งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. พ.ต.ต.ภูริทัต บุญช่วย สว.ส.ทท.1กก.ทท. ร.ต.อ.คณิสร มณีรัตน์ รอง สว.ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท. ร.ต.ท.พลากร เหล่าวิเศษกุล รอง สว.สส.กก.1 บก.ทท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทท. ร่วมแถลงการจับกุมตัว นายพิธาวัชร์ อัครฐิติวีรกุล หรือหมง อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 554/2558 ลงวันที่ 20 มี.ค. 58 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำลายสิ่งกีดกั้นในยวดยานสาธารณะหรือรับของโจร และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น พร้อมของโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ 4 ใบ กระเป๋าสะพาย 2 ใบ แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ฆณ 3377 กทม. 1 แผ่น แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงหมายเลข ถ 5152 กทม. 2 แผ่น แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงหมายเลข อ 7220 กทม. 1 แผ่น โดยสามารถจับกุมได้ที่ศูนย์ซ่อมรถยนต์ ย่านถนนลาดพร้าว เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ศุภพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวจากบนรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือรถทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวนานาชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จำนวนหลายคดีในหลายท้องที่ โดยทรัพย์สินที่หายไปส่วนใหญ่จะเป็นเงินสด และบัตรเครดิต เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามพบว่านายพิธาวัชร์เป็นผู้นำบัตรเครดิตของผู้เสียหายที่เคยไปแจ้งความหายไว้ไปรูดซื้อสินค้า มูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท จึงเฝ้าติดตามจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.อาชยนกล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า การก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมีการทำกันเป็นขบวนการ โดยจะมีพนักงานประจำรถทัวร์ถือโอกาสขณะนักท่องเที่ยวเผลอลงมือก่อเหตุแอบลอดเข้าไปในช่องเก็บสัมภาระของนักท่องเที่ยวบริเวณใต้ท้องรถแล้วลักทรัพย์เป็นเงินสดและบัตรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของนักท่องเที่ยวไปโดยจะไม่แตะต้องทรัพย์สินอื่นๆ กว่านักท่องเที่ยวจะรู้ตัวว่าถูกลักทรัพย์เวลาก็ผ่านไปนานแล้ว จากนั้นพนักงานประจำรถจะนำบัตรเครดิตไปให้กับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นคนกลางรับบัตรดังกล่าว ก่อนนำไปให้นายพิธาวัชร์ให้รูดซื้อสินค้า โดยนายพิธาวัชร์มักจะขับรถที่สวมแผ่นป้ายทะเบียนของรถคันอื่นไปก่อเหตุรูดซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคาแแพงตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก่อนนำสินค้าไปขายต่อ เมื่อได้เงินมานายพิธาวัชร์ก็จะนำเงินไปแบ่งให้กับคนกลางที่เป็นผู้นำบัตรเครติดมาให้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติทราบว่านายพิธาวัชร์ ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2542 ในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ดี อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการห้างร้านต่างๆ ให้ระมัดระวังในการให้บริการกับผู้ที่นำบัตรมารูดซื้อสินค้า ควรตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการก่อเหตุของมิจฉาชีพในลักษณะดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎมาย พร้อมดำเนินการสอบสวนเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น