ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ท่องเที่ยวภูเก็ต ร่วมกับตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกันจับกุมหนุ่มเคนยาถือหนังสือเดินทางปลอม พร้อมลักลอมนำยาแผนปัจจุบันเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท. ร.ต.อ.ภฤศธร อยู่ทอง รอง สว.ส.ทท.2 พร้อมด้วย ด.ต.ทรงกรด สุนทรนนท์ ด.ต.พรภิรมย์ ไกรกิจราษฎร์ ด.ต.ดนุชัช มั่นประสงค์ ผบ.หมู่ ส.ทท.2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหา ชื่อ นาย JOSPHAT GIKUNDI GICHUNUKU อายุ 35 ปี สัญชาติเคนยา พร้อมด้วยของกลางหนังสือเดินทางประเทศเคนยา เลขที่ A2331155 บัตรโดยสารสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ Ek378 จำนวน 1 ใบ บัตร ตม. หมายเลข sx86321 ใช้ชื่อ และสัญชาติเคนยา จำนวน 1 ใบ ยา XASTEN Dexamethasone จำนวน 380 แผง บรรจุแผงละ 10 เม็ด รวม 3,800 เม็ด และยา Super Apetf จำนวน 85 แผง บรรจุแผงละ 10 เม็ด รวม 850 เม็ด
โดยกล่าวหาว่า ใช้หรือมีไว้ใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม และนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบันเกินจำนวนที่จำเป็นจะต้องใช้เฉพาะตัวได้สามสิบวัน โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.ยา ม.12, 13(ภ) นำส่ง พงส.สภ.ท่าฉัตรไชย ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับพฤติกรรมในการจับกุม สืบเนื่องจากนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองประจำเคาน์เตอร์ท่าอากาศยานภูเก็ตพบพิรุธว่าหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวน่าจะเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงได้ประสาน ตร.ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต และตำรวจท่องเที่ยวเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่า หน้าข้อมูลบุคคลของหนังสือเดินทางถูกพิมพ์ขึ้นมาใหม่ทั้งหน้าด้วยระบบอิงค์เจ็ท แผ่นลามิเนตถูกลอกออกและปิดทับลงไปใหม่ปรากฏฟองอากาศเห็นชัด ภาพสำรองบุคคลด้านขวาจะมีตัวอักษรเล็กพิมพ์คำว่า REPUBLIC OF KENYA เรียงเป็นแถว แต่หนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวไม่สามารถอ่านได้ หมายเลขปรุหัวพาสปอร์ตไม่ตรงกัน และจากการตรวจค้นกระเป้าพบยาแผนปัจจุบันจำนวนมาก ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า พาสปอร์ตเป็นของตนจริงแต่ไม่ทราบว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอม ส่วนยาทั้งหมดนั้นเป็นของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท. ร.ต.อ.ภฤศธร อยู่ทอง รอง สว.ส.ทท.2 พร้อมด้วย ด.ต.ทรงกรด สุนทรนนท์ ด.ต.พรภิรมย์ ไกรกิจราษฎร์ ด.ต.ดนุชัช มั่นประสงค์ ผบ.หมู่ ส.ทท.2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหา ชื่อ นาย JOSPHAT GIKUNDI GICHUNUKU อายุ 35 ปี สัญชาติเคนยา พร้อมด้วยของกลางหนังสือเดินทางประเทศเคนยา เลขที่ A2331155 บัตรโดยสารสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ Ek378 จำนวน 1 ใบ บัตร ตม. หมายเลข sx86321 ใช้ชื่อ และสัญชาติเคนยา จำนวน 1 ใบ ยา XASTEN Dexamethasone จำนวน 380 แผง บรรจุแผงละ 10 เม็ด รวม 3,800 เม็ด และยา Super Apetf จำนวน 85 แผง บรรจุแผงละ 10 เม็ด รวม 850 เม็ด
โดยกล่าวหาว่า ใช้หรือมีไว้ใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม และนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบันเกินจำนวนที่จำเป็นจะต้องใช้เฉพาะตัวได้สามสิบวัน โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.ยา ม.12, 13(ภ) นำส่ง พงส.สภ.ท่าฉัตรไชย ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับพฤติกรรมในการจับกุม สืบเนื่องจากนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองประจำเคาน์เตอร์ท่าอากาศยานภูเก็ตพบพิรุธว่าหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวน่าจะเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงได้ประสาน ตร.ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต และตำรวจท่องเที่ยวเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่า หน้าข้อมูลบุคคลของหนังสือเดินทางถูกพิมพ์ขึ้นมาใหม่ทั้งหน้าด้วยระบบอิงค์เจ็ท แผ่นลามิเนตถูกลอกออกและปิดทับลงไปใหม่ปรากฏฟองอากาศเห็นชัด ภาพสำรองบุคคลด้านขวาจะมีตัวอักษรเล็กพิมพ์คำว่า REPUBLIC OF KENYA เรียงเป็นแถว แต่หนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวไม่สามารถอ่านได้ หมายเลขปรุหัวพาสปอร์ตไม่ตรงกัน และจากการตรวจค้นกระเป้าพบยาแผนปัจจุบันจำนวนมาก ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า พาสปอร์ตเป็นของตนจริงแต่ไม่ทราบว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอม ส่วนยาทั้งหมดนั้นเป็นของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
