ASTV ผู้จัดการ - “แจ๊ด ปืนจิ๋ว” เลื่อนเข้าในปากคำ ภ.1 อ้างขอเตรียมเอกสาร “อำนวย” เร่งสอบไป 14 ปาก เผยคืบหน้ามาก แต่ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ต้องรอสอบก่อน ยันท่าอากาศยานไทยมีมาตรฐานในการตรวจสอบ
จากกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับการปล่อยตัวหลังพกพาอาวุธขึ้นเครื่องบินจากเมืองไทยไปลงที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีข่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะเดินทางมาให้ปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ในวันนี้ (21ก.ค.)
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (21 ก.ค.) พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า กรณีการเข้ามาให้ปากคำของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์นั้นตอนแรกนัดในวันนี้ แต่เมื่อวาน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้โทรศัพท์มาหาตนและขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำเป็นวันจันทร์หน้าแทน (วันที่ 27 ก.ค.) เนื่องจากขอเตรียมเอกสารสำคัญก่อน ช่วงที่ผ่านมาตนก็ได้เรียกสอบไปแล้ว 14 ปาก คืบหน้าไป 70-80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ฝากไปยังนิตยสาร COP'S (ค็อปส์) ด้วยว่าในกรณีที่ท่านเคยลงบทสัญภาษณ์ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เรื่องปืนนั้น ตนอยากจะขอสอบปากคำท่าน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขอให้ติดต่อเข้าให้ปากคำด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ปืนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์พกพาไปประเทศญี่ปุ่นนั้นสามารถตรวจสอบได้หรือยังว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนหรือไม่ พล.ต.ท.อำนวยตอบว่า ปืนจะมีทะเบียนหรือไม่นั้นสามารถตรวจสอบทางราชการได้อยู่แล้ว ต้องมีเอกสารยืนยัน อีกทั้งในกรณีที่มีข่าวว่าการท่าอากาศยานตรวจพบว่ามีคนนำปืนขึ้นเครื่องไปในวันที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เดินทางไปญี่ปุ่นแล้วมาแจ้งความไว้แล้วนั้นไม่เป็นความจริง ข่าวมั่ว ถ้าตรวจสอบพบปืนแต่ปล่อยให้ขึ้นเครื่องไปมีความผิดแน่ การท่าอากาศยานฯ จะตกเป็นผู้ต้องหาทันที ที่ผ่านมาตนก็ได้เรียกการท่าอากาศยานมาสอบปากคำแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าสอบอะไรไปบ้างเพราะอยู่ในสำนวน ยังยืนยันว่าท่าอากาศยานบ้านเรานั้นได้มาตรฐานทุกอย่าง เพียงแต่ที่ญี่ปุ่นอาจจะเข้มงวดกว่า ตนเองก็เคยลืมแล้วพกปืกไฟแช็กติดตัวไปขึ้นเครื่อง แต่ก็ยังถูกตรวจพกจนต้องทิ้งไปก่อนจะขึ้นเครื่อง ซึ่งการพกพาสิ่งของผิดกฎหมายขึ้นเครื่องบินนั้นมีข้อหาระบุไว้อยู่แล้วแต่โทษน้อยกว่าอาวุธปืน ในกรณีนี้ก็ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใด ยังคงต้องรอ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เดินทางมาสอบปากคำ และรอข้อมูลจากทางประเทศญี่ปุ่นก่อน