ชาวบ้านบึงกาฬกว่า 30 คนร้องดีเอสไอ ถูกนายทุนออกโฉนดทับที่แล้วขับไล่ออกจากที่ดินอาศัยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เคยไปร้องราชการให้ตรวจสอบแต่กลับไมสามารถทำได้ กลับบอกว่าเป็นการออกโฉนดซ้ำซ้อน
วันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุภัตรา ยิ่งเจริญ เลขานุการท่านผู้หญิงอภิรดี ยิ่งเจริญ ราชองครักษ์พิเศษฯ นำชาวบ้าน 3 หมู่บ้านในอำเภอโซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ประมาณ 30 คน เข้ายื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือจากดีเอสไอ กรณีถูกนายทุนออกโฉนดทับที่แล้วขับไล่ออกจากที่ดินที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอเป็นผู้รับเรื่อง
นางสุภัตรากล่าวว่า ชาวบ้านจากบ้านคำแก้ว บ้านโนนสามัคคี และบ้านหนองโหนด จากอำเภอโซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ถูกนายทุนออกโฉนดทับที่ดินซึ่งอยู่อาศัยกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษและบังคับให้ออกจากพื้นที่ โดยไม่รู้จะหันหน้าไปพึงใคร
ด้าน น.ส.จตุพร (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่มาร้องเรียนเผยว่า ก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องและต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินของตัวเองมาหลาย 10 ปี โดยเมื่อปี 2537 นายทุนได้เข้ามาซื้อที่ดินใกล้เคียงและมีการออกโฉนดทับซ้อนกับพื้นที่ของชาวบ้านทั้งที่ไม่ได้ขายให้แก่นายทุน หลังจากนั้นชาวบ้านได้ร้องเรียนไปทางจังหวัดตั้งแต่สมัยที่ยังไม่แยกออกจากจังหวัดหนองคาย เพื่อให้ตรวจสอบการขอสิทธิในการออกโฉนดที่ดิน เพราะชาวบ้านอยู่อาศัยมานาน แต่กลับไม่สามารถทำได้เพราะทางราชการบอกว่าเป็นการออกโฉนดซ้ำซ้อนเพราะมีผู้ออกโฉนดไปก่อนหน้านี้ และยังจะให้พวกชาวบ้านออกจากพื้นที่ทั้งที่พวกเราอยู่กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย วันนี้จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะต้องตรวจสอบว่านายทุนที่รุกที่ดินของชาวบ้านนั้นมีการออกเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แล้วหากผิดกฎหมายมีการออกได้อย่างไร และเมื่อชาวบ้านมีการร้องเรียนให้เพิกถอนแล้ว หลังจากนั้นมีการดำเนินการอย่างไร โดยจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ขอให้ชาวบ้านทั้งสามหมู่บ้านสบายใจได้