นครราชสีมา - โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ยันแม่ทัพไม่ได้ละเลยปราบขบวนการค้าพะยูง โว 3 เดือนดำเนินคดีกว่า 440 คดี ผู้ต้องหา 2,000 คน ยึดทรัพย์ 300 ล้านบาท ได้คืนพื้นที่ป่า 8 หมื่นไร่
วันนี้(8 ม.ค.) ที่เทศบาลตำบลปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 รองแม่ทัพน้อยที่ 2 เปิดเผยถึงกรณีที่น.ส.สุภัตรา ยิ่งเจริญ เลขานุการท่านผู้หญิงอภิรดี ยิ่งเจริญ ราชองครักษ์พิเศษ เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ ติดตามทวงถามที่เคยยื่นเรื่องในปี 2556 ให้ดีเอสไอสืบสวนขบวนการลักลอบค้าไม้พะยูงและยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยื่นหนังสือถึง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพล.ท.ธวัช สุขปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ปล่อยให้มีขบวนการลักลอบตัดไม้เคลื่อนไหวต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติด โดยจ้างเด็กในพื้นที่ให้ขนไม้พะยูงแลกกับยาเสพติด
เรื่องนี้ความจริงแล้วผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานของกองทัพบก โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะคสช. สมัยตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำเรื่องการเอาจริงเอาจัง ให้ความสำคัญรักษาทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะไม้พะยูง ไม้ทั่วไป และการบุกรุกป่า
ทั้งนี้ พล.ท.ธวัช เอาจริงเอาจังกับปัญหานี้ โดยช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2557 ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 สามารถดำเนินคดีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่ากว่า 440 คดี จับผู้ต้องหาประมาณ 2,000 คน และดำเนินคดีตามกฎหมายหมด ไม่มีละเว้น
กองทัพภาคที่ 2 ได้ประสานทำงานกับดีเอสไอ โดยดีเอสไอรับไปทำคดีใหญ่แล้ว 6 คดี และปีที่ผ่านมาสามารถยึดทรัพย์นายทุนใหญ่ได้กว่า 300 ล้านบาท ได้พื้นที่ป่าไม้คืนจนถึงปัจจุบันประมาณ 80,000 ไร่
