xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” สารภาพตามจับแก๊งหมิ่นฯ ยาก เหตุหนีไปประเทศไร้ ม.112

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
ผบ.ตร.ยอมรับตามจับผู้ต้องหาผิดมาตรา 112 ที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศยาก หากประเทศเหล่านั้นไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หรือมีสนธิสัญญา แต่ไม่มีฐานความผิดเหมือนมาตรา 112

วานนี้ (15 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แบ่งผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ออกเป็น 5 กลุ่มว่า เป็นเรื่องของนโยบายที่มีการแบ่งลักษณะงานหรือคดีออกไปเพื่อให้รับผิดชอบ ส่วนตำรวจซึ่งมีหน้าที่สอบสวนคดีอาญาต้องดำเนินการในทุกคดีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ไพบูลย์หารือกับทูตฝรั่งเศสถึงการนำตัวผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ก่อนอื่นต้องคำนึงก่อนว่าประเทศไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศนั้นหรือไม่ และประเทศนั้นมีความผิดเช่นในมาตรา 112 หรือไม่ ถ้าหากไม่มีก็ไม่สามารถส่งตัวผู้ต้องหาให้เราได้ แต่ทั้งนี้เป็นความพยายามของหน่วยงานรัฐ อาทิ กระทรวงยุติธรรม อัยการ และกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องดำเนินการ แต่การที่จะได้รับการสนองตอบในการปฏิบัติต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายและเอกสิทธิของประเทศนั้น

เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ หลบหนีไปต่างประเทศ ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะมีมาตรการอะไรหรือไม่ ในการติดตามตัวคนเหล่านี้ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า รัฐบาลไทยต้องดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อนำตัวผู้ต้องหากลับมาแต่การสนองตอบเป็นเรื่องของประเทศที่บุคคลเหล่านั้นไปพำนักอยู่ กรณีที่ประเทศเหล่านั้นไม่มีกฎหมายมาตรา 112 ก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ อย่างนายอเนก ซานฟราน นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ และนายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ จึงเลือกจะไปหลบหนีในประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกฎหมายอื่นที่ไม่ใช่มาตรา 112 จึงทำให้การติดตามตัวเป็นไปอย่างค่อนข้างยาก
กำลังโหลดความคิดเห็น