ผบ.ตร.เชื่อการเคลื่อนไหว นศ.ดาวดิน มีคนบงการ เหน็บองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนห้ามจุ้น

ผบ.ตร.ระบุกลุ่มนักศึกษาดาวดินร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เป็นหน้าที่ของงานด้านความมั่นคง เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมทำความเข้าใจ แต่ต้องยึดหลักกฎหมาย เหน็บองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่ามาจุ้น

วันนี้ (6 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีการยื่นเรื่องขอให้ปล่อยตัวนักศึกษากลุ่มดาวดินทั้ง 14 คนที่ถูกควบคุมตัวหลังออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งในวันที่ 7 ก.ค.นี้จะครบกำหนดฝากขังว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง เป็นเรื่องที่ทางฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ทหารจะต้องดำเนินการ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะปฏิบัติการตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือรัฐบาล ทั้งนี้อะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามผิด ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้นก็ต้องรอดูว่าท่าทีของกลุ่มนักศึกษาเป็นอย่างไร แต่จริงๆ แล้วตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะขณะนี้บ้านเมืองก็กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี

ถึงแม้ว่าประเทศเรายังไม่มีประชาธิปไตย แต่กำลังพยายามนำไปสู่ประชาธิปไตย โดยที่ไม่ให้คนไทยต้องมาทะเลาะเบาะแว้งหรือมาฆ่ากันเอง และหากปล่อยให้เป็นเป็นแบบเดิมเกรงว่าจะไปซ้ำรอยวันที่มีบุคคลสองกลุ่มที่มีความเห็นขัดแย้งกัน ตั้งป้อมที่จะเผชิญหน้ากันและหากเราปล่อยเหตุการณ์นั้นมาจนถึงทุกวันนี้ คงเดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น และในขณะนั้นที่มีคนสองกลุ่มชุมนุมกันเต็มท้องถนนมีความขัดแย้ง และจะมีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่ความรุนแรง เศรษฐกิจต่างๆ เช่น กิจการโรงแรม กิจการร้านอาหารก็ทรุดลง 20-30 เปอร์เซ็นต์ด้วย แต่ในปัจจุบันเมื่อเปรียบเทียบกับอดีตที่มีการชุมนุมทางการเมืองของคนสองกลุ่ม ถือว่าขณะนี้เศรษฐกิจดีขึ้นมาก

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ส่วนในขณะนี้กลุ่มนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศก็เริ่มมีความเคลื่อนไหว หน้าที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ทหาร หรือรัฐบาล คนกลุ่มนี้ต้องพยายามทำความเข้าใจในการทำงานของรัฐบาล อาทิ การประกาศโรดแมปชัดเจนว่าปีหนึ่งมีการทำอะไรบ้าง นั่นคือการพยายามทำความเข้าใจ ก็จะต้องฝากไปถึงนักศึกษาหรือประชาชนที่มีความคิดเห็นต่าง ลองอดใจรอ ถ้าคิดจะทำอะไรหรือคิดจะดำเนินการอะไร ลองย้อนดูเวลาที่มีม็อบอยู่เต็มท้องถนน กับเวลานี้แบบไหนมีความสุขมากกว่ากัน ตนไม่ต้องตอบโจทย์นี้ แต่ขณะนี้ดีขึ้นมากกว่า แต่มีแค่นิดเดียวคือคนที่มีความคิดว่าจะต้องเป็นประชาธิปไตย ไม่รู้ว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องอดใจรอหน่อย นักศึกษาและประชาชนมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น แต่การแสดงความคิดเห็นนั้นต้องเป็นไปตามสุจริต ไม่มีเบื้องหลังไม่มีเบื้องหน้า แล้วแสดงความคิดเห็นนั้นไม่เป็นไร ไม่ต้องมารบราฆ่าฟันกัน ฟังเสียงส่วนใหญ่

“ส่วนองค์กรแอมเนสตี้ หรือองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนได้มีการส่งหนังสือมาถึงผมให้ปล่อยตัวนักศึกษาด้วย องค์กรเหล่านี้ไม่ว่าองค์กรไหนก็แล้วแต่ก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นหรือจะแสดงความรู้สึก แต่ถามนิดเดียวว่าเวลาประเทศชาติมีปัญหาองค์กรเหล่านี้ไปไหนหมด เวลาพี่น้องประชาชนเดือดร้อน องค์กรเหล่านี้หดหัวไปอยู่ที่ไหนหมด เคยไหมที่จะออกมาช่วยเหลือ เคยไหมที่จะออกมาทำให้คนไทยรักกันสมานสามัคคี ไม่มีหรอก เพราะเขาไม่ใช่คนบ้านเรา เขาไม่รู้จักคนไทยดี คนไทยในประวัติศาสตร์มีการรักใคร่ปรองดองเป็นปึกแผ่น แต่ประเทศไทยในอดีตสมัยกรุงศรีอยุธยาและสมัยกรุงธนบุรีล่มสลายเพราะคนไทยไปเชื่อต่างชาติยุแยงตะแคงรั่ว เราจะเป็นแบบนั้นอีกเหรอ ฟังเขา เขาคิดไม่เห็นต้องทำตาม เขาจะรู้จักคนไทยได้ยังไง เขากินขนมปัง เขาไม่ได้กินน้ำพริกปลาร้าอย่างเรา แล้วจะไปรู้จักนิสัยคนไทยได้อย่างไร คนไทยเท่านั้นที่จะรู้จักนิสัยคนไทยดี ยกตัวอย่างง่ายๆ สมัยที่มีสองฝ่ายอยู่บนถนนพร้อมที่จะเผชิญหน้า ถ้าไม่มีวันนี้คนไทยฆ่ากันไปแล้ว กลายเป็นอิรักไปแล้ว บางครั้งวิถีคนแบบไทยๆ ก็ต้องอยู่แบบคนไทย ไม่ใช่แบบฝรั่ง ฝรั่งก็คิดแบบฝรั่งเพ้อเจ้อ เขาไม่ใช่คนไทย บางครั้งนั่งวิจารณ์อยู่ที่ประเทศเขา ผมไม่ฟังเขาหรอก” พล.ต.อ.สมยศกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนักศึกษา 14 คนนี้จะฝากขังต่อใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม ถามต่อว่าและกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้มีเบื้องหลังหรือไม่นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า มีแน่ แต่เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง