ชุดสืบสวนบางพลัดจับนักศึกษาเทคโนพระราม 6 ยิงนักศึกษาสวนสุนันทาเสียชีวิตเหตุเข้าใจผิดว่าเป็นสถาบันคู่อริ เหตุเกิดเมื่อ 29 มิ.ย. ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทำไปเพราะความใจร้อน
วันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พล.ต.ต.มานิตย์ จันทรคณา ผบก.น.7 พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เพ็ชรกำเหนิด รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางพลัด พ.ต.ท.วาสุเทพ คงกล่อม รอง ผกก.สส.สน.บางพลัด พ.ต.ท.ปรีชา ใยมะเดื่อ สว.สส.สน.บางพลัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด แถลงผลการจับกุม นายศุวนนท์ พลยุทธ์ หรือคิว อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่82/79 หมู่ 10 ตำบลบางกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน ที่ 396/2558 ลงวันที่ 30 มิ.ย. 58 จับกุมได้บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระราม 6 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 58 เวลาประมาณ 19.30 น. ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, พาอาวุธปืนและมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร
พ.ต.อ.วุฒิพงษ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 58 เมื่อเวลา 16.00 น. เกิดเหตุคนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนยิงนายคัณธิศักดิ์ สายโพธิ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เสียชีวิตหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระราม 6 แล้วหลบหนีไปยังเส้นถนนจรัญสนิทวงศ์ขาเข้า โดยขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายคือนายศุวนนท์ พลยุทธ์ หรือคิว นักศึกวิทยาลัยเทคโนโลยีพระราม 6 และนายสุพจน์ ดาวเรือง หรือต่อ ได้ใช้อาวุธปืนชนิดไทยประดิษฐ์ก่อเหตุยิงนายคัณธิศักดิ์แล้วหลบหนี
จากการสืบสวนทราบว่า นายคัณธิศักดิ์กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาและแต่งกายคล้ายนักเรียนอาชีวะ โดยสวมหัวเข็มขัดของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชุมพร ยืนอยู่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระราม 6 อาจจะทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจจึงลงจากจักรยานยนต์ไปหาผู้ตายเพื่อขอเปิดดูหัวเข็มขัดว่าเป็นสถานคู่อริหรือไม่ แต่ผู้ตายขัดขืนและมีปากเสียงกัน ระหว่างนั้นนายศุวนนท์หยิบอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าอกของนายคัณธิศักดิ์แล้วหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวนายศุวนนท์พร้อมอาวุธปืน และจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ จึงควบคุมตัวไว้ดำเนิน ส่วนนายสุพจน์ที่ยังหลบหนีอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ บก.น.7 กำลังติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายศุวนนท์ให้การว่า ระหว่างที่ตนขับรถกับเพื่อนไปเจอผู้ตายพยักหน้าให้จึงลงจากรถไปถามและขอดูหัวเข็มขัด แต่ผู้ตายไม่ยอมจึงเกิดปากเสียงกัน ตนจึงคว้าอาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่แล้วหลบหนี ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุตนติดต่อซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตในราคา 3,000 บาท เพื่อเอาไว้ปกป้องน้องเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนอยากขอโทษ ขอขมาพ่อแม่ของผู้ตาย ทำไปเพราะความใจร้อน