เกิดเหตุสลด ลูกชายสติไม่ดีทำร้ายแม่บังเกิดเกล้าจนเสียชีวิต เผยทำไปเพราะความเครียดจากอาการทางประสาท รู้เรื่องทุกอย่างแต่ระงับอารมณ์ไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้กินยามานาน เพื่อนบ้านเผยเห็นผู้เป็นลูกกระทืบอยู่หลายครั้งก่อนบีบคอจนหมดสติก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เผยเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาไม่ถึงเดือน ผู้ตายเคยบ่นกับตนว่าอายุคงไม่ยืน กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (1 ก.ค.) พ.ต.ท.หญิง ชุติมา ยิ่งสังข์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายภายในครอบครัวจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ภายในบ้านเลขที่ 69 ซอยประชาอุทิศ 54 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผกก.สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์เวร รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ปลูกแบบครึ่งไม้ครึ่งปูน ริมคลองราชพฤกษ์ บริเวณชั้นล่างพบร่างนางตลับ ม่วงเผือก อายุ 77 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สภาพร่างกายถูกทำร้ายร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้า และลำคอ อยู่ในอาการหมดสติ โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ระดมเข้าทำการซีพีอาร์เพื่อช่วยเหลือยื้อชีวิตแต่ไม่เป็นผล นางตลับเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบนายมานพ ม่วงเผือก อายุ 50 ปี ผู้เป็นลูกและเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายแม่บังเกิดเกล้าของตนเองนั่งอยู่ภายในบ้านด้วยอาการเหม่อลอย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวสอบสวนที่ สน.ทุ่งครุ ส่วนศพนำไปตรวจพิสูจน์ที่ รพ.ศิริราช
จากการสอบสวนนางอุไร มานสุรินทร์ อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านของผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงคนร้องตะโกนเอะอะโวยวายจากบ้านหลังดังกล่าว จึงรีบไปดู พบว่านายมานพกำลังลงมือทำร้ายร่างกายผู้เป็นแม่ด้วยการกระทืบอยู่หลายครั้งก่อนใช้มือบีบคอจนผู้เป็นแม่หมดสติไป เมื่อเห็นเช่นนั้นตนจึงตะโกนให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว โดยนางตลับมีลูกทั้งหมด 10 คน ผู้ต้องหาเป็นลูกคนที่ 3 นางตลับรักลูกคนนี้มากเนื่องจากมีอาการทางประสาทและมีประวัติการเข้ารักษาตัวที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยาเป็นเวลานานแล้ว ล่าสุดเพิ่งกลับมาจากการรักษาตัวได้ไม่ถึงเดือน พบว่า 2 วันที่ผ่านมา นายมานพมีอาการเดินเกร็ง ก่อนที่ผู้ตายได้ถามลูกว่าได้กินยาหรือยัง แต่นายมานพกลับตอบว่ากินยามากไปแล้ว คืนก่อเกิดเหตุนางตลับยังเคยบ่นกับเพื่อนบ้านว่าอายุคงไม่ยืน กระทั่งในวันนี้เกิดเหตุสลดดังกล่าว ทั้งนี้ นางตลับและนายมานพอาศัยบ้านหลังนี้กันแค่สองคน เพราะพ่อของนายมานพเพิ่งเสียชีวิตเมื่อปีก่อน
ด้าน พล.ต.ต.ฤชากรกล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายมานพ ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่าทำไปเพราะอาการเครียดจากการอาการทางประสาท รับรู้เรื่องทุกอย่างแต่ระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้เนื่องจากไม่ได้กินยามาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนตัวแล้วนายมานพรักแม่มาก แล้วยังได้ฝากขอโทษกับสิ่งที่ทำไปอีกด้วย เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนต้องนำตัวนายมานพทำการตรวจร่างกายที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติการรักษาตัว หากผู้ต้องหามีอาการทางประสาทจริงต้องมอบให้ทางแพทย์ทำการรักษาอย่างใกล้ชิดต่อไป